แนวคิด
October 29, 2023
พิธีอุปสมบทและการผูกสีมาในวัดจีนนิกาย
ในพิธีอุปสมบท (บวชพระภิกษุ) พระวินัยกำหนดให้กระทำในพื้นที่เฉพาะสำหรับสังฆกรรม ซึ่งมีการผูกสีมาเรียบร้อยแล้ว สำหรับวัฒนธรรมพระพุทธศาสนาของดินแดนไทยซึ่งมีนิกายเถรวาทเป็นหลักจะเห็นว่ามีการกำหนดพื้นที่ดังกล่าว โดยตั้งใบเสมาศิลาเพื่อกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน และมีการสร้างอาคารภายในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า อุโบสถ หรือโบสถ์ หลายคนสังเกตเห็นการตั้งใบเสมาในวัดจีนนิกายของไทยหลายแห่ง เช่น วัดมังกรกมลาวาส และวัดโพธิ์แมนคุณาราม และอาจเข้าใจว่าตั้งแต่มีการสร้างวัดจีนนิกายในไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมาก็คงมีการตั้งใบเสมาเพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่เพื่อทำสังฆกรรมอยู่แล้ว แต่แท้จริงแล้วการผูกสีมาในวัดจีนนิกายในไทยเพิ่งเริ่มราว พ.ศ.2490 ในสมัยพระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (โพธิ์แจ้ง) เป็นเจ้าคณะใหญ่จีนนิกาย โดยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ที่เริ่มมีการตั้งคณะสงฆ์จีนนิกายจนกระทั่งช่วงก่อน พ.ศ.2490 […]
October 29, 2023
งานศิลปกรรมในวัดพุทธศาสนามหายาน จีนนิกาย และอนัมนิกาย กรุงเทพมหานคร
เมื่อกล่าวถึงพระพุทธศาสนามหายานในไทย หลายคนคุ้นเคยกับคำว่า จีนนิกาย และอนัมนิกาย นามเรียกดังกล่าวเป็นคำเรียกอย่างไทยเพื่อสื่อถึงแหล่งที่มาคือจีน และเวียดนาม ตามลำดับ ทั้งนี้ หลักฐานการสร้างศาสนสถานของทั้งสองนิกายอยู่ในช่วงสมัยกรุงธนบุรี – รัตนโกสินทร์ สำหรับกรุงเทพมหานคร มีวัดจีนนิกายทั้งหมด 5 แห่ง และวัดอนัมนิกายทั้งหมด 7 แห่ง วัดเหล่านี้สัมพันธ์กับชาวจีนและชาวญวณอพยพในกรุงเทพฯ อย่างมาก น่าสังเกตว่า สถาปัตยกรรม และประติมากรรม แสดงถึงการผสมผสานงานศิลปกรรมที่หลากหลาย มีทั้งที่แสดงเอกลักษณ์ดั้งเดิมของคนอพยพทั้งสองกลุ่ม อีกทั้งแสดงลักษณะใหม่ที่พึ่งเกิดขึ้น […]
October 29, 2023
ข้อสันนิษฐานการเปลี่ยนแปลงแผนผังของวัดสุวรรณารามในสมัยรัตนโกสินทร์
ระบบแผนผังเขตพุทธาวาสของวัดสุวรรณารามในปัจจุบัน มีการวางพระอุโบสถและพระวิหารตั้งอยู่คู่ขนานกัน คงเป็นงานบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ดังที่กล่าวกันว่าพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้รื้อและสร้างขึ้นใหม่ทั้งพระอารามและพระราชทานนามว่า วัดสุวรรณาราม หากแต่ด้วยขนาดของอาคารทั้งสองกลับไม่เท่ากัน จึงเกิดประเด็นสงสัยและได้ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ “พระวิหาร” คือ “พระอุโบสถหลังเดิม” และ “พระอุโบสถ” ก่อนนั้นคือที่ตั้งของ “พระวิหารหลังเดิม” เนื่องจากวัดในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง ที่สร้างพระอุโบสถและพระวิหารตั้งอยู่คู่ขนานกัน ไม่ว่าจะตั้งอยู่สลับกันอย่างไรก็ตาม พบว่าการจัดวางตำแหน่งของพระอุโบสถมักจะสร้างให้ใกล้กับกุฏิหรือเขตสังฆาวาส เพราะโดยทั่วไปแล้ว การออกแบบแผนผังวัดจะต้องออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย หากพระอุโบสถตั้งไกล […]
October 29, 2023
ข้อสันนิษฐานจากบันไดทางขึ้นอาคาร
หากสังเกตการขึ้นตัวอาคารทั้งอุโบสถและวิหารของวัดในย่านฝั่งธนบุรี พบว่าวัดโบราณส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นอาคารทรงจั่นหับ อย่างวัดอรุณราชวราราม วัดดุสิดาราม อาคารทรงมุขโถงหลังคาจั่วเปิด อย่างวัดใหม่เทพนิมิตร อาคารมีหลังคากันสาด อย่างวัดสุวรรณาราม มักจะมีบันไดทางขึ้นฐานอาคารบริเวณมุขหน้า-มุขหลัง ที่เป็นชานพักก่อนเข้าสู่ตัวห้องอยู่ทางด้านข้างซ้าย-ขวา หากแต่ไม่ได้พบเฉพาะแค่ย่านฝั่งธนบุรีเท่านั้น เพราะถือเป็นรูปแบบทางขึ้นที่นิยมทำในฝั่งพระนครด้วย จากการสำรวจวัดสมัยอยุธยาในพื้นที่เกาะเมืองและบริเวณใกล้เคียง พบว่าส่วนใหญ่แล้วการขึ้นสู่ชานพักบนฐานอาคารนั้นจะขึ้นทางด้านหน้าและเดินตรงสู่ประตูห้องได้ทันที ยกเว้นตัวอย่างวัดแถบนอกเกาะเมืองฝั่งตะวันออก เช่น วัดมเหยงคณ์ วัดกุฎีดาว วัดสีกาสมุด ที่ทำบันไดทางขึ้นด้านข้าง แต่ก็ถือว่าเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับการทำบันไดทางด้านหน้า จากกรณีดังกล่าว อาจแสดงให้เห็นว่าวัดในย่านฝั่งธนบุรีนิยมทำบันไดขึ้นอาคารทางด้านข้างมาแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี และมีการสืบทอดต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ โดยอาจเป็นธรรมเนียมการสร้างวัดในแถบพื้นที่นี้ เพราะต่างกับวัดในพื้นที่อื่นๆ […]
October 29, 2023
การตรวจสอบรูปแบบจากหลักฐานงานศิลปกรรมประเภทอื่นๆ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษานอกจากจะตรวจสอบงานประเภทเดียวกันแล้ว ยังจำเป็นต้องตรวจสอบหลักฐานงานศิลปกรรมประเภทอื่นๆ เพื่อช่วยให้งานมีความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น หลักฐานที่เลือกใช้ในครั้งนี้คือ ลายเส้นจากบันทึกชาวต่างชาติอย่างจดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ และจากภาพอาคารในงานจิตรกรรมฝาผนัง *ในกรณีของบันทึกชาวต่างชาติอย่างจดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ มีภาพอุโบสถทำเป็นอาคารมีมุขยื่นออกไปทางด้านหน้าและด้านหลังที่เรียกว่า “อาคารทรงมุขโถงหลังคาจั่วเปิด” โดยอาคารลักษณะนี้มีความคล้ายคลึงกับอุโบสถ วัดใหม่เทพนิมิตร *อาคารอีกรูปแบบหนึ่งพบในงานจิตรกรรมภายในตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์ วัดพุทไธศวรรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา มีภาพ “อาคารแบบมีหลังคากันสาดยื่นออกมาทั้ง 4 ด้าน” พบอาคารลักษณะนี้เช่น พระอุโบสถ วัดสุวรรณาราม *อาคารอีกประเภทหนึ่งพบในงานจิตรกรรมภายในตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์เช่นกัน […]
October 29, 2023
การวางผังอุโบสถและวิหารคู่ขนานกัน
ลักษณะแผนผังเขตพุทธาวาสแบบการวางอุโบสถและวิหารคู่ขนานกัน ในเบื้องต้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นรูปแบบการจัดวางแผนผังแบบหนึ่งที่พบในเขตบางกอกมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ในย่านฝั่งธนบุรี ดังจะเห็นได้จากวัดที่มีประวัติการสร้างสมัยอยุธยาบางวัดก็มีการวางแผนผังเช่นนี้ อย่างที่โบสถ์น้อย วิหารน้อย วัดอรุณราชวราราม วัดสุวรรณาราม จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่าน่าจะเป็นรูปแบบแผนผังที่อาจนิยมในพื้นที่ย่านนี้มาก่อน เนื่องจากยังไม่พบหลักฐานว่าวัดสมัยอยุธยาในพื้นที่อื่นวางผังลักษณะดังกล่าว เมื่อเข้าสู่สมัยรัตนโกสินทร์การวางผังอุโบสถและวิหารคู่ขนานกัน ยังคงได้รับความนิยมในพื้นที่กรุงเทพฯ และได้กระจายออกไปยังพื้นที่อื่นๆ รอบนอกด้วย เช่น วัดเครือวัลย์ วัดประเสริฐสุธาวาส และวัดบางน้ำผึ้งนอก เป็นต้น
October 29, 2023
อาคารทรงจั่นหับ
อาคารทรงจั่นหับ หรือ อาคารที่มีเพิงยื่นออกไปทางด้านหน้าและด้านหลัง ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบอาคารที่นิยมใช้สร้างเป็นอุโบสถและวิหารของวัดในย่านฝั่งธนบุรี ในช่วงพุทธศตวรรษทื่ 24 หรือในสมัยอยุธยาตอนปลายจนถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เช่น โบสถ์น้อย วิหารน้อยวัดอรุณราชวราราม พระอุโบสถวัดดุสิดาราม พระอุโบสถวัดทองธรรมชาติ พระอุโบสถวัดภคินีนาถ อุโบสถวัดสวนสวรรค์ อุโบสถวัดทอง เป็นต้น รูปแบบอาคารเช่นนี้อาจเกี่ยวข้องกับลักษณะบ้านเรือนที่เป็นอาคารเครื่องไม้ของบ้านเรือนไทยแบบพื้นถิ่นทั่วไปในภาคกลาง หากแต่ปรับเปลี่ยนวัสดุจากบ้านเครื่องไม้เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน กรณีประโยชน์ของการสร้างเพิงกับบ้านพักอาศัย นอกจากจะใช้เป็นหลังคากันแดดกันฝนไม่ให้เข้ามาในตัวบ้านที่เป็นเขตพักอาศัยแล้ว ยังทำให้สามารถเปิดประตูห้องเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ถึงแม้ฝนจะตกหรือแดดจะส่องลงมาก็ตาม ส่วนกรณีของการสร้างเพิงกับโบสถ์และวิหารก็คงมีหน้าที่และประโยชน์เช่นเดียวกับบ้านพักอาศัย และเป็นการออกแบบหลังคายื่นออกมาจากตัวอาคารรูปแบบหนึ่งเพื่อคลุมบริเวณหน้าประตูทางเข้าที่ทุกโบสถ์ วิหารจำเป็นต้องมี ลักษณะสำคัญของอาคารกลุ่มนี้ จุดสังเกตนอกจากจะอยู่ที่เพิงด้านหน้าและด้านหลังแล้ว […]
October 29, 2023
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท – ต้นแบบพระมหาปราสาทแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นต้นแบบสำคัญของสถาปัตยกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ที่เรียกว่า “พระมหาปราสาท” สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจและเพื่อเฉลิมพระเกียรติยศแห่งองค์ประมหากษัตริย์ มีรูปแบบเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนแบบไทยประเพณี หลังคาเป็นเครื่องไม้มุงกระเบื้อง ประดับเครื่องลำยองซึ่งประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกา นาคสะดุ้ง มีสิ่งที่โดดเด่น คือ การประดับปลายกรอบหน้าบันด้วยนาคเบือนแทนหางหงส์ ซึ่งพบเพียงไม่กี่แห่งในพระบรมมหาราชวัง ที่หน้าบันทั้ง 4 ทิศและหน้าบันมุขเด็จด้านทิศเหนือประดับประติมากรรมรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ แวดล้อมด้วยลายก้านขดออกปลายเทพพนมซึ่งเป็นลวดลายที่สืบต่อมาจากสมัยอยุธยา สัญลักษณ์ดังกล่าวสะท้อนคติความเชื่อที่ว่าพระมหากษัตริย์เปรียบดังองค์พระนารายณ์ เทพเจ้าที่อยู่ในสถานะกษัตริย์ผู้ปกครองตามคติความเชื่อในศาสนาพราหมณ์ได้อวตารมาปกครองยังโลกมนุษย์ ส่วนหลังคาที่มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีซ้อนชั้นนั้น แต่เมื่อแรกสร้างยังเป็นหลังคาดาดด้วยดีบุก ที่รักแร้หรือมุมฉากทั้ง 4 ของชั้นหลังคาประดับด้วยประติมากรรมรูปครุฑยุดนาค ที่กึ่งกลางของชั้นหลังคาจตุรมุขประดับด้วยยอดทรงปราสาทที่เป็นทรงกรวยแหลมสูง ลักษณะเครื่องหลังคาที่เป็นทรงปราสาทนี้ ยังเป็นต้นแบบในการสร้างพระมหาปราสาทองค์อื่น […]
October 29, 2023
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทถือเป็นต้นแบบของงานช่างหลวงในสมัยรัตนโกสินทร์ที่เป็นสถาปัตยกรรมเนื่องในสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งได้รับรูปแบบและแนวความคิดในการสร้างมาจากพระมหาปราสาทเมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีที่ยังคงสภาพสมบูรณ์มาจนถึงปัจจุบันในอดีตที่ผ่านมา พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ ที่สำคัญ คือ พระราชพิธีพระบรมศพพระมหากษัตริย์ และพระราชพิธีพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ซึ่งได้ถือปฏิบัติมาแต่ครั้งรัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา แต่นอกจากจะเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีดังกล่าวแล้ว พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีที่สำคัญประการอื่นซึ่งเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศแห่งองค์พระมหากษัตริย์ในอีกหลายคราว เช่น ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้ใช้พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเป็นที่ประชุมสงฆ์เพื่อสังคายนาพระไตรปิฎกสืบเนื่องจากสมัยรัชกาลที่ 1 พระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช พ.ศ.2454 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชพิธีฉัตรมงคล และพระราชพิธีอื่นตามแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดขึ้น ณ พระมหาปราสาทแห่งนี้ […]