admin
January 11, 2024
ความเข้าใจผิดเรื่องอุโบสถรูปแบบมอญ
วัดกันตทาราม ตลาดพลู
ข้อมูลแนะนำวัดกันตทาราม หรือวัดใหม่จีนกัน ในสื่อออนไลน์มักมีการส่งต่อข้อมูลว่าอุโบสถของวัดเป็นแบบมอญ หรือศิลปะมอญ ทั้งที่เมื่อพิจารณารูปแบบโดยรวมแล้วพบว่ารูปแบบอาคารทรงตึกก่ออิฐขึ้นจรดหน้าบันอาคาร มีเฉลียงด้านหน้า-หลัง และการประดับตกแต่งหน้าบันด้วยชามกระเบื้องในโครงลายก้านแย่งนั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของอาคารทรงตึกที่ปรากฏอยู่หลายแห่งในย่านคลองบางหลวง สัมพันธ์กับกลุ่มอาคารทรงตึกแบบเก่าสืบจากสมัยอยุธยาตอนปลาย ทั้งแบบมีหลังคาเครื่องลำยองและไม่มีเครื่องลำยอง อาทิ อุโบสถ (เก่า) วัดทองศาลางาม อุโบสถวัดตโน อุโบสถวัดบางไส้ไก่ (ปัจจุบันรื้อถอนสร้างอุโบสถหลังใหม่แทน) เมื่อพิจารณาประวัติการสร้างพบว่าชาวบ้านชาวไทยและจีนได้ยกที่สวนพลูริมคลองบางน้ำชนและสร้างวัดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เรียกชื่อตามนามผู้สร้างว่า “วัดใหม่จีนกัน” การพิจารณารูปแบบพบว่ามีการออกแบบผังอาคารที่มีการสร้างเจดีย์ทรงเครื่องเรียงรายเป็นบริวารโดยรอบอุโบสถ แบบแผนลายประดับหน้าบัน และรูปแบบอาคารทรงตึกสัมพันธ์กับแรงบันดาลใจจากอุโบสถวัดราชคฤห์ในย่านเดียวกัน ซึ่งตามประวัติสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2-3 โดยวัดดังกล่าวมีฐานะเป็นพระอารามหลวง […]
January 11, 2024
อิทธิพลศิลปะอยุธยาตอนปลายในงานช่างวัดราชสิทธาราม กรุงเทพมหานคร
วัดราชสิทธารามสถาปนาขึ้นใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 เพื่อพระราชทานพระญานสังวร (สุก) ถือเป็นวัดฝ่ายวิปัสสนาธุระ (อรัญวาสี) แห่งแรกของฝั่งธนบุรี ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัด งานพุทธศิลป์สำคัญแสดงลักษณะสืบจากศิลปะอยุธยาตอนปลายเชื่อว่าน่าจะเป็นงานที่มีมาแต่สมัยแรกสร้างวัด ได้แก่ แผนผัง อุโบสถเป็นประธาน ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วที่มีกุฏิวิปัสสนาขนาดเล็กเรียงรายในแนวกำแพง 24 หลัง แม้จะเป็นรูปแบบพิเศษแต่อาจสร้างล้อกุฏิวิปัสสนาเครื่องไม้ที่เคยมีอยู่เดิมด้วยเป็นวัดฝ่ายวิปัสสนาธุระ และมีหลักฐานการสร้างกุฏิวิปัสสนาแยกจากตำหนักจำพรรษาของเจ้านายในวัดสมัยรัชกาลที่ 1 ทั้งนี้การสร้างกุฏิวิปัสสนาล้อมรอบอุโบสถไม่ใช่แนวคิดใหม่ปรากฏหลักฐานในจดหมายเหตุของลาลูแบร์ ที่เดินทางมายังกรุงศรีอยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์ อุโบสถประดับหน้าบันรูปนารายณ์ทรงครุฑบนพื้นลายก้านขดซึ่งปรากฏในงานประดับหน้าบันในศิลปะอยุธยาตอนปลาย แต่มีพัฒนาการการแตกช่อลายจากช่อหางโตเป็นประติมากรรมรูปหงส์ เทพนม […]
January 11, 2024
มนุษย์สิงห์ สัตว์บริวารของทวารบาลบนบานประตูหอไตรวัดอัปสรสวรรค์
ข้อมูลจารึกระบุว่าหอไตรหลังนี้สร้างขึ้นโดยพระวชิรกวี (รอด) ใน พ.ศ.2383 ตรงกับสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 3 เป็นอาคารเครื่องไม้แบบไทยประเพณียกใต้ถุนสูงตั้งอยู่กลางสระน้ำที่เหลือหลักฐานอยู่น้อยมากในปัจจุบัน เฉพาะย่านคลองบางหลวงปรากฏอีกที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ จากรูปแบบเชื่อว่าน่าจะเป็นงานสร้างที่มีมาแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย หอไตรวัดอัปสรสวรรค์ผสมผสานระหว่างงานแบบประเพณีนิยม ดังปรากฏผ่านวัสดุ โครงสร้าง รูปแบบหลังคาแบบเครื่องลำยอง รูปแบบซุ้มประตูหน้าต่างทรงปราสาทและบันแถลง รวมถึงลายประดับพื้นผิวอาคารภายนอก กับงานประดับอิทธิพลจีนตามพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 ดังปรากฏผ่านลวดลายหน้าบันอาคารและซุ้ม เป็นลายดอกไม้ประเภทเครือเถาเคล้าก้าน ลายเครือเถาดอกโบตั๋นแตกดอกออกช่อทั้งประดับเต็มพื้นที่ และประดับเป็นพื้นลายของทวารบาลบนบานประตูหน้าต่าง ทวารบาลมีทั้งแบบไทยทรงเครื่องยืนแท่น และแบบไทยผสมอิทธิพลจีน แบบหลังสังเกตได้ผ่านหนวดเครา แต่งกายชุดนักรบสวมเกราะอ่อนแบบไทยทับเสื้อที่มีลวดลายประดับแบบจีน […]
January 11, 2024
หลักฐานเกี่ยวกับช่างหล่อโลหะชาวเวียดนามสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
หลักฐานเอกสารของไทยกล่าวถึงเหตุการณ์องเชียงสือหลบหนีจากกรุงเทพฯ กลับเวียดนามในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1 ว่า “แล้วองเชียงสือพาครอบครัวพวกองเชียงสือกับพวกญวนเก่าที่กรุงเทพฯ ไป องเฮียวเจ้ากรมช่างสลักหนึ่ง องหับเจ้ากรมช่างไม้หนึ่ง องเกาโลเจ้ากรมช่างหล่อหนึ่ง รวม 3 คนลงเรือถอนสมอรีบแจวไปในเวลากลางคืนนั้น” บันทึกดังกล่าวทำให้ทราบว่า ชาวเวียดนามส่วนหนึ่งที่อพยพเข้ามาในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์เป็นช่างฝีมือ ซึ่งรวมถึงช่างหล่อโลหะด้วย อาทิ องเกาโล . ภายในวัดมงคลสมาคม มีระฆังใบหนึ่งระบุช่วงเวลาที่สร้างว่า “ปีที่ 60 แห่งรัชศกจิ่งซิง” รัชศกดังกล่าวใช้ในสมัยราชวงศ์เลระยะหลังจนถึงสมัยกบฎเต็ยเซิน เทียบเท่ากับปี พ.ศ. […]
January 11, 2024
ภาพประดับหน้าบันวัดอุภัยราชบำรุง
วัดอุภัยราชบำรุง ซึ่งเป็นวัดอนัมนิกายรุ่นแรกในไทย หนึ่งในงานศิลปกรรมของวัดแห่งนี้ที่มีความน่าสนใจ คือ หน้าบันอาคารประธาน โดยที่กลางหน้าบันประดิษฐานประติมากรรมรูปบุคคลในอิริยาบถยืน นิ้วพระหัตถ์ขวาชี้ขึ้นสู่เบื้องบนในขณะที่นิ้วพระหัตถ์ซ้ายชี้ไปยังเบื้องล่าง และมีการประดับประติมากรรมนูนสูงรูปมังกรล้อมประติมากรรมรูปบุคคลดังกล่าว . องค์ประกอบข้างต้นมีที่มาจากเหตุการณ์ประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งในเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าชายสิทธัตถะชี้นิ้วพระหัตถ์ข้างหนึ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และอีกข้างหนึ่งลงสู่พื้นดิน เพื่อเป็นการแสดงว่า พระองค์เป็นใหญ่ที่สุดใน 3 โลก และพระชาตินี้จะเป็นพระชาติสุดท้ายของพระองค์ ฉากพุทธประวัตินี้ปรากฏครั้งแรกในศิลปะจีน โดยช่างนิยมประดับภาพมังกรไว้ในภาพด้วย ความนิยมดังกล่าวส่งอิทธิพลในงานพุทธศิลป์ของเวียดนามเช่นกัน
January 11, 2024
อาคารทรงมุขโถงหลังคาจั่วเปิด – การสืบต่อในสมัยรัตนโกสินทร์
อาคารทรงมุขโถงหลังคาจั่วเปิดเป็นหนึ่งในรูปแบบที่นิยมสร้างมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตามที่ปรากฏหลักฐานภาพลายเส้นจากบันทึกชาวต่างชาติอย่างจดหมายเหตุ ลา ลูแบร์ ตัวอย่างที่พบ เช่น อุโบสถวัดบางยี่ขัน อุโบสถวัดใหม่เทพนิมิตร อุโบสถวัดพระยาศิริไอยสวรรค์ อุโบสถวัดช่องนนทรี และคงสืบเนื่องมาในสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เช่น พระอุโบสถวัดยานนาวา . พอมาถึงในสมัยรัชกาลที่ 3 ก็ไม่ได้รับความนิยมสร้างอาจด้วยเพราะเหตุผลดังนี้ 1. อาคารกลุ่มนี้เป็นอาคารที่ตกแต่งด้วยเครื่องไม้ในส่วนหน้าบัน เครื่องลำยอง สาหร่าย รวงผึ้ง และคันทวย ซึ่งองค์ประกอบมักชำรุดง่ายจากการผุพังตามกาลเวลาทำให้ต้องบูรณะบ่อยครั้ง 2. […]
January 11, 2024
การลำดับเรื่องราวแบบเวียนทวนเข็มนาฬิกาในงานจิตรกรรมฝาผนัง
ตัวอย่างสำคัญของการเขียนงานจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวคือที่พระอุโบสถวัดสุวรรณาราม โดยน่าจะเป็นวิธีการเล่าเรื่องรูปแบบหนึ่งที่พบในสมัยอยุธยาตอนปลายมาแล้ว เช่น ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถวัดสุวรรณารามมีการเขียนเรื่องพุทธประวัติ ชาดก และภาพไตรภูมิโลกสัณฐาน ซึ่งถือเป็นภาพหลักโดยทั่วไปที่มักพบภายในอุโบสถหรืออาคารมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยา . การลำดับเรื่องราวแบบเวียนทวนเข็มนาฬิกาพบบริเวณผนังระหว่างกรอบประตู-หน้าต่าง เริ่มจากภาพทศชาติเรื่องพระเตมีย์บนผนังแปฝั่งซ้ายมือของพระพุทธรูปประธานด้านประตูหน้า ไปจบที่ด้านหลังด้วยทศชาติเรื่องวิฑูรบัณฑิต ส่วนเรื่องเวสสันดรชาดกจะเริ่มจากผนังสกัดหลัง เวียนไปทางผนังแปฝั่งขวามือของพระพุทธรูปประธาน จนมาจบที่ฝั่งประตูด้านหน้าพระอุโบสถ ก่อนจะต่อด้วยเรื่องพุทธประวัติช่วงก่อนตรัสรู้บนผนังสกัดหน้าซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกันจากอดีตพระชาติต่อด้วยพระชาติปัจจุบัน . การเวียนเรื่องราวแบบทวนเข็มนาฬิกากับการเขียนเรื่องทศชาติ ในกรณีพระอุโบสถวัดสุวรรณาราม ยังอาจเกิดจากการวางผังวัดให้หมู่กุฏิกับพระอุโบสถมีความสัมพันธ์กัน เห็นได้จากการกำหนดจุดเริ่มต้นเรื่องและการเวียนลำดับเรื่องให้สัมพันธ์กับการเข้ามาประกอบสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ ลักษณะการจัดวางตำแหน่งหมู่กุฏิกับอุโบสถและการวางเรื่องทศชาติเช่นนี้คล้ายคลึงกับวัดใหม่เทพนิมิตร ซึ่งอาจเป็นหนึ่งในแม่แบบที่ใช้ในการบูรณะวัดสุวรรณารามในสมัยรัชกาลที่ 3 […]
January 11, 2024
โบสถ์น้อย วิหารน้อย วัดอรุณราชวราราม หลักฐานสมัยอยุธยาในฝั่งธนบุรี
วัดอรุณราชวราราม เป็นหนึ่งในวัดย่านฝั่งธนบุรีที่มีประวัติการสร้างมาแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เนื่องด้วยแต่เดิมบริเวณแถบนี้เคยเป็นเมืองหน้าด่าน คอยตรวจดูเรือก่อนที่จะวิ่งเข้าสู่กรุงศรีอยุธยา ซึ่งสัมพันธ์กับหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น แผนที่ชาวต่างชาติและพระราชพงศาวดารที่กล่าวถึงเหตุการณ์การรุกรานปากแม่น้ำเจ้าพระยาโดยชาติตะวันตกในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหน้าวัดหันหน้าไปทางคลองลัดที่ขุดในสมัยพระเจ้าไชยราชา ปัจจุบันคือแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหม่ (แม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิมค่อยๆ ตื้นเขินและแคบลง กลายมาเป็นคลองบางกอกใหญ่ คลองบางกอกน้อย คลองชักพระ) จึงแสดงให้เห็นว่าวัดอรุณราชวรารามน่าจะสร้างขึ้นภายหลังการขุดคลองลัดนี้ โบสถ์น้อย วิหารน้อย เป็นหนึ่งในหลักฐานงานศิลปกรรมสมัยอยุธยา สังเกตได้จาก 1.รูปแบบแผนผังที่สร้างโบสถ์ วิหาร คู่กัน 2.มีกันสาดที่ด้านหน้าและหลังของอาคาร 3.หน้าบันมีส่วนผนังเป็นงานก่ออิฐถือปูนที่ก่อเป็นผนังหนาสีขาว ด้านบนสุดเป็นเครื่องไม้สามเหลี่ยมขนาดเล็ก 4.การประดิษฐานพระพุทธรูปเป็นกลุ่มอยู่บนฐานเดียวกันภายในโบสถ์น้อย […]
January 11, 2024
พระที่นั่งบุษบกมาลา
พระที่นั่งบุษบกมาลา เป็นพระที่นั่งสำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จออก ประดิษฐานในพระที่นั่งสำคัญ เช่น ที่มุขเด็จด้านทิศเหนือ และที่ผนังมุขด้านทิศใต้ของพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พระที่นั่งบุษบกมาลามีรูปแบบอย่างไทยประเพณี ประกอบด้วยส่วนฐานที่เป็นฐานสิงห์ลดหลั่นซ้อนชั้นสูงขึ้นไป ที่ท้องไม้ของแต่ละชั้นประดับประติมากรรมครุฑ และเทพนม จบด้วยชั้นบัวหงาย ส่วนกลางประกอบด้วยเสาย่อมุมประดับกาบพรหมศร ประจำยามที่กลางเสา และคันทวยที่หัวเสา รองรับส่วนบนที่เป็นหลังคาทรงปราสาทยอดแหลม ทั้งหมดปิดทองและประดับกระจกสีซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความเป็นเรือนฐานันดรสูง สมพระเกียรติแห่งองค์พระมหากษัตริย์เมื่อเสด็จออกในวโรกาสสำคัญ . สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอธิบายว่า เหตุที่เรียกพระที่นั่งรูปแบบนี้ว่า “พระที่นั่งบุษบกมาลา” ดังที่ปรากฏในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมานที่เรียกว่าพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน และที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทนั้น เป็นเพราะพระที่นั่งนี้เป็นแบบไทยประเพณีที่มียอดแหลมอย่างที่เรียกกันว่าบุษบก […]