
มนุษย์สิงห์ สัตว์บริวารของทวารบาลบนบานประตูหอไตรวัดอัปสรสวรรค์

ความเข้าใจผิดเรื่องอุโบสถรูปแบบมอญ วัดกันตทาราม ตลาดพลู
วัดราชสิทธารามสถาปนาขึ้นใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 เพื่อพระราชทานพระญานสังวร (สุก) ถือเป็นวัดฝ่ายวิปัสสนาธุระ (อรัญวาสี) แห่งแรกของฝั่งธนบุรี ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ทรงปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัด งานพุทธศิลป์สำคัญแสดงลักษณะสืบจากศิลปะอยุธยาตอนปลายเชื่อว่าน่าจะเป็นงานที่มีมาแต่สมัยแรกสร้างวัด ได้แก่ แผนผัง อุโบสถเป็นประธาน ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วที่มีกุฏิวิปัสสนาขนาดเล็กเรียงรายในแนวกำแพง 24 หลัง แม้จะเป็นรูปแบบพิเศษแต่อาจสร้างล้อกุฏิวิปัสสนาเครื่องไม้ที่เคยมีอยู่เดิมด้วยเป็นวัดฝ่ายวิปัสสนาธุระ และมีหลักฐานการสร้างกุฏิวิปัสสนาแยกจากตำหนักจำพรรษาของเจ้านายในวัดสมัยรัชกาลที่ 1 ทั้งนี้การสร้างกุฏิวิปัสสนาล้อมรอบอุโบสถไม่ใช่แนวคิดใหม่ปรากฏหลักฐานในจดหมายเหตุของลาลูแบร์ ที่เดินทางมายังกรุงศรีอยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์ อุโบสถประดับหน้าบันรูปนารายณ์ทรงครุฑบนพื้นลายก้านขดซึ่งปรากฏในงานประดับหน้าบันในศิลปะอยุธยาตอนปลาย แต่มีพัฒนาการการแตกช่อลายจากช่อหางโตเป็นประติมากรรมรูปหงส์ เทพนม ราชสีห์ และคชสีห์เป็นคู่ไล่จากบนลงล่างน่าจะเป็นของเดิมแต่แรกสร้างในรัชกาลที่ 1 เช่นเดียวกับจิตรกรรมฝาผนังบางส่วน ที่มีเทคนิคการเขียนภาพต้นไม้ตัดเส้นเป็นพุ่มใบ การใช้โทนสีอ่อนจาง การใช้เส้นสินเทา และการจัดองค์ประกอบภาพสืบจากสมัยอยุธยาตอนปลายต่างจากจิตรกรรมในรัชกาลที่ 3 พระประธานในอุโบสถ กล่าวกันว่าเป็นฝีพระหัตถ์ของรัชกาลที่ 2 ทรงปั้นพระเศียร และรัชกาลที่ 3 ทรงปั้นพระอุระ พระราชทานนามว่า “พระพุทธจุฬารักษ์” พระพักตร์ยังสืบเนื่องลักษณะบางประการจากพระพุทธรูปสมัยอยุธยา ได้แก่ ทำเปลือกพระเนตรป้านเป็นแผ่น พระโอษฐ์กว้าง เส้นพระโอษฐ์เป็นหยักต่างจากพระพักตร์แบบหุ่นในพระพุทธรูปสมัยรัชกาลที่ 3

แผนผังวัดราชสิทธาราม กรุงเทพฯ ที่มา: สุธี เวสารัชกิตติ, “สถาปัตยกรรมวัดราชสิทธาราม” หน้าจั่ว ว่าด้วยประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมไทย 12 (ม.ค.-ธ.ค. 2558), 315.

หน้าบันอุโบสถวัดราชสิทธาราม กรุงเทพฯ