แนวคิดศิลปกรรมไทยประเพณีในกลุ่มราชสำนักและช่างราษฎร์
October 29, 2023
หน้าบัน…ข้อสังเกตจากลายเถาคดโค้ง
“หน้าบัน” เป็นองค์ประกอบหนึ่งของอาคารที่สำคัญ และมักได้รับการตกแต่งให้สวยงามตามฝีมือช่างและการสืบทอดรูปแบบ เทคนิคต่อๆ กันมา ลวดลายบนหน้าบันที่อุโบสถวัดบางยี่ขัน คงเป็นอีกแบบแผนหนึ่งที่แสดงถึงการสืบทอดโครงสร้างลวดลายมาจากสมัยอยุธยา โดยการประกอบขึ้นจากลายก้านขดไล่ขึ้นไปตามกรอบสามเหลี่ยม (ลายเส้นสีส้ม) แล้วแทรกด้วยลายเถาคดโค้งที่อยู่บริเวณกลางหน้าบัน (ลายเส้นสีฟ้า) ความพิเศษของหน้าบันอุโบสถวัดบางยี่ขัน คือการใช้ลายเถาคดโค้งเข้ามาด้วย เนื่องจากหน้าบันโดยส่วนใหญ่ที่พบมักใช้แค่ลายก้านขดเท่านั้น จากการศึกษาหลักฐานงานศิลปกรรมสมัยอยุธยาในปัจจุบัน พบว่ามีบางแห่งปรากฏลักษณะคล้ายกับวัดบางยี่ขัน เช่น หน้าบันวิหารพระพุทธบาทสี่รอย วัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี แต่หน้าบันบางแห่งพบเฉพาะลายเถาคดโค้งในแนวตั้งเพียงอย่างเดียว เช่น วัดไผ่ล้อม จังหวัดเพชรบุรี ด้วย จึงทำให้เกิดข้อสังเกตที่ว่า […]
October 29, 2023
หน้าบัน…หลักฐานจากกรอบลายก้านขด
“หน้าบัน” เป็นองค์ประกอบหนึ่งของอาคารที่สำคัญ และมักได้รับการตกแต่งให้สวยงามตามฝีมือช่างและการสืบทอดรูปแบบ เทคนิคต่อๆ กันมา หน้าบันของวัดในพื้นที่ฝั่งธนบุรี คงมีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงการสืบทอดมาจากงานช่างในสมัยอยุธยาด้วย ดังเช่นที่อุโบสถวัดใหม่เทพนิมิตร ลักษณะการวางแบบแผนลายแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ เส้นกึ่งกลางในแนวตั้ง และส่วนลายด้านซ้ายและขวาที่ออกแบบให้สมดุลกัน ในกรณีของหน้าบันอุโบสถวัดใหม่เทพนิมิตร ลักษณะแกนลายในตำแหน่งกึ่งกลางใช้กรอบลายพุ่มข้าวบิณฑ์ประดับเป็นจังหวะ โดยด้านล่างทำกรอบลายข้าวบิณฑ์ให้มีขนาดใหญ่ที่สุด และไล่ระดับลดหลั่นกันขึ้นไป ส่วนรายละเอียดการประดับลวดลายด้านข้างทั้งซ้ายและขวาจะประดับลายก้านขดเป็นหลัก โดยจะเน้นลายก้านขดตัวล่างให้มีขนาดใหญ่และม้วนลงด้านล่าง ถัดขึ้นไปเป็นลายก้านขดที่มีขนาดเล็กกว่าและม้วนขึ้นด้านบน ทำลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงกรอบด้านบน ลักษณะดังกล่าวนี้เป็นแบบแผนลวดลายบนหน้าบันที่นิยมมากที่สุด เห็นได้จากหลักฐานที่ยังคงหลงเหลืออยู่ทั้งอุโบสถวัดมเหยงคณ์ หน้าบันอุโบสถวัดบรมพุทธาราม […]
October 29, 2023
วัดสุวรรณาราม…ตัวอย่างการสืบทอดงานช่างจากสมัยอยุธยา
วัดสุวรรณาราม ตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อย หันหน้าวัดไปทางคลอง จากประวัติเชื่อกันว่าเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ตามที่พระราชพงศาวดารฉบับพระราชหัตถเลขาได้กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดเกล้าฯ ให้นำเชลยศึกพม่าไปประหารชีวิตที่วัดทอง วัดทองนี้คงเป็นวัดเดียวกับวัดที่รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์โปรดเกล้าฯ ให้รื้อและสร้างขึ้นใหม่ทั้งพระอารามและพระราชทานนามว่า “วัดสุวรรณาราม” โดยมีพระราชประสงค์สำคัญอย่างหนึ่ง คือ เพื่อเป็นที่ประกอบพิธีปลงพระศพของเจ้านายและศพของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 3 พระองค์ทรงเห็นว่าวัดสุวรรณารามทรุดโทรมจึงได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ และมีการฉลองวัดในปี พ.ศ.2374 งานศิลปกรรมในปัจจุบันคงแสดงให้เห็นถึงการสืบทอดงานช่างในสมัยอยุธยา ถึงแม้จะสร้างขึ้นใหม่ทั้งอารามในสมัยรัชกาลที่ 1 ก็ตาม เช่น การจัดวางแผนผังอุโบสถ กับ […]
October 29, 2023
รูปแบบของวัดโบราณในย่านฝั่งธนบุรี
วัดในพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรีที่ทำการศึกษาเป็นกลุ่มวัดซึ่งมีรูปแบบแผนผังและการประดับตกแต่งอาคารแบบไทยประเพณี กำหนดอายุในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 23-24 อยู่บริเวณเขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น วัดใหม่เทพนิมิตร วัดดุสิดาราม วัดบางยี่ขัน วัดสุวรรณาราม วัดระฆังโฆสิตาราม และวัดอรุณราชวราราม เป็นต้น รูปแบบงานช่างแบบไทยประเพณีที่ปรากฏจึงน่าจะมีหลักฐานของงานศิลปกรรมที่แสดงให้เห็นถึงการสืบเนื่องงานช่างแบบไทยประเพณีจากสมัยอยุธยาเป็นราชธานี หลงเหลืออยู่บ้าง ทั้งในเรื่องการวางแผนผังเขตพุทธาวาส โครงสร้างอาคาร รวมทั้งการประดับตกแต่งภายนอกอาคารที่นิยมใช้เครื่องไม้เป็นวัสดุหลักในส่วนเครื่องลำยอง หน้าบัน สาหร่ายและรวงผึ้ง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีหลักฐานการอยู่อาศัยเป็นชุมชนขนาดใหญ่และมีความสำคัญมาแล้วอย่างช้าในสมัยอยุธยา ดังนั้นจึงน่าจะมีงานช่างที่ยังคงหลงเหลืออยู่และสืบต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ นอกจากนี้รูปแบบที่ปรากฏอาจจะแสดงถึงความสัมพันธ์กับงานช่างหลวงและงานช่างแบบท้องถิ่น […]
October 29, 2023
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นกลาง มีรูปแบบเป็นอาคารแบบไทยประเพณี หลังคาซ้อนชั้นมุงกระเบื้องสีเขียวคาดขอบสีเหลืองและส้ม กรอบหน้าบันประดับเครื่องลำยอง นามของพระที่นั่งนี้หมายถึง วิมานที่ประทับของพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ทรงพิจารณาตัดสินความ จึงเป็นการสะท้อนความเชื่อที่ว่าพระมหากษัตริย์เปรียบประดุจดังองค์อมรินทร์ ผู้เป็นราชาแห่งเทพยดาทั้งปวงที่สถิตยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทรงพิจารณาตัดสินวินิจฉัยข้อราชการต่าง ๆ   สอดคล้องกับหน้าที่ของพระที่นั่งซึ่งเป็นท้องพระโรงฝ่ายหน้าของหมู่พระมหามณเฑียรสำหรับเสด็จออกทรงบริหารราชการแผ่นดิน   
October 29, 2023
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นพระที่นั่งองค์หนึ่งในหมู่พระมหามณเฑียรที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เดิมเรียกกันว่าพระที่นั่งสิบเอ็ดห้อง เนื่องจากมีขนาดกว้างใหญ่และยาวถึงสิบเอ็ดห้องหรือสิบเอ็ดช่วงเสา ทอดตัวตามแนวตะวันออก-ตะวันตก ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ได้พระราชทานนามพระที่นั่งองค์นี้ว่า พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในภายหลังได้พบว่ามีการออกนามเต็มโดยเรียกพระที่นั่งองค์นี้ว่า พระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมาน หากพิจารณาจากนามเต็มของพระที่นั่งจะพบว่ามีความหมายถึง วิมานที่ประทับของผู้ยิ่งใหญ่แห่งทิศใต้อันกว้างใหญ่ อาจอธิบายความหมายได้ว่า พระที่นั่งนี้สื่อแทนถึงพื้นที่แห่งชมพูทวีปซึ่งเป็นดินแดนอันกว้างใหญ่และอยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ ในคัมภีร์ที่เกี่ยวกับโลกสัณฐานมักกล่าวตรงกันถึงความสำคัญของชมพูทวีปไว้ว่าเป็นดินแดนที่อุบัติของมหาบุรุษคือพระพุทธเจ้า และพระมหาจักรพรรดิราชซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่ามหากษัตริย์อื่นใดทั้งปวง นามของพระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมานจึงสะท้อนให้เห็นว่า พระมหากษัตริย์ผู้สถิตประทับ ณ พระที่นั่งนี้ก็คือพระมหาจักรพรรดิราชผู้ทรงไว้ซึ่งธรรมราชาและเป็นผู้ปกครองชมพูทวีปตามคติความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ สอดคล้องกับหน้าที่สำคัญของพระที่นั่งองค์นี้ที่ใช้ในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ซึ่งมีทั้งขั้นตอนการถวายน้ำอภิเษก การถวายสิริราชสมบัติ เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ […]
October 29, 2023
ซุ้มพระทวารใกล้กับพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งโถงชิดด้านหน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน และ สร้างพระทวารที่สำคัญอีก 2 แห่ง คือ พระทวารเทวาภิบาลที่ด้านทิศเหนือ และพระทวารเทเวศร์รักษาที่ด้านทิศตะวันตก ที่ทับหลังของพระทวารเทวาภิบาลบานกลางซึ่งเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินมีภาพนูนต่ำปิดทองรูปเทวดา 2 องค์ในท่าเหาะ องค์หนึ่งเงื้อพระขรรค์ อีกองค์อยู่ในท่าอัญชลี ส่วนทับหลังของซุ้มพระทวารเทเวศร์รักษามีรูปเทวดาเหาะถือพระขรรค์ ขนาบข้างด้วยยักษ์ 2 ตน ประติมากรรมรูปเทวดาทั้งสองแห่งคงสร้างขึ้นเพื่อให้พ้องกับนามของพระทวาร รูปลักษณ์ของเทวดาเป็นการถวายอารักขาและถวายพระพรแด่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อเสด็จพระราชดำเนินผ่าน นอกจากนี้ ยังมีซุ้มพระทวารด้านทิศตะวันออกและตะวันตกใกล้กับพระที่นั่งโถงที่อยู่ด้านหน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ที่ทับหลังมีประติมากรรมนูนต่ำปิดทองรูปเทวดาทั้งด้านในและด้านนอก รวมทั้งสิ้น […]
October 29, 2023
พระแท่นมหาเศวตฉัตร
พระแท่นมหาเศวตฉัตร เป็นพระราชบัลลังก์แบบไทยประเพณี ตั้งอยู่ในผังสี่เหลี่ยมยกเก็จที่มีความสูงซ้อนชั้นลดหลั่นกัน แต่ละชั้นประดับลวดลายไทย โดยชั้นแรกเป็นฐานสิงห์ ถัดขึ้นไปเป็นชั้นครุฑยุดนาคและชั้นเทพนมตามลำดับ ด้านบนเป็นพนักประกอบเสาหัวเม็ดทรงมัณฑ์และกระพอง เว้นช่วงที่ด้านหน้าสำหรับประทับนั่งห้อยพระบาท เบื้องล่างที่ด้านหน้ายกเก็จเป็นแท่นลดสำหรับรองรับพระบาท พระแท่นมหาเศวตฉัตรเป็นพระราชบัลลังก์สำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จออกมหาสมาคมในพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา โดยเจ้าพนักงานจะอัญเชิญพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่ตกแต่งด้วยศิลปะไทยประเพณีและมีขนาดย่อมกว่า ขึ้นทอดบนพระแท่นมหาเศวตฉัตรอีกชั้นหนึ่งเพื่อเป็นพระราชบัลลังก์ ตั้งโต๊ะทองเคียงสองข้าง และประดับต้นไม้เงินต้นไม้ทองที่มุมทั้ง 4 ของพระราชบัลลังก์ เมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จประทับนั่งห้อยพระบาทเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ที่ซ้อนอยู่เหนือพระแท่นมหาเศวตฉัตรในพระราชพิธีสำคัญดังกล่าว จึงเปรียบเสมือนองค์อมรินทร์ที่ประทับบนยอดเขาพระสุเมรุที่แสดงออกผ่านพระราชบัลลังก์ที่มีความสูงตระหง่าน และตอกย้ำแนวคิดนี้ด้วยผ้าทิพย์ด้านหน้าของที่ประทับซึ่งประดับรูปช้างเอราวัณพาหนะแห่งพระอินทร์ รวมทั้งการประดับสัญลักษณ์รูปครุฑยุดนาคและเทพนมที่ฐานแต่ละชั้นของพระราชบัลลังก์เพื่อสื่อแทนภพภูมิของสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาลที่อยู่เบื้องล่างของเขาพระสุเมรุ ขณะเดียวกันต้นไม้เงินต้นไม้ทองที่ประดับมุมของพระราชบัลลังก์ก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนป่าหิมพานต์ที่อยู่ในทวีปเชิงเขาพระสุเมรุที่ประทับอันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล […]
October 29, 2023
พระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน
พระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานประดิษฐานอยู่ตอนในสุดของพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ซึ่งเป็นท้องพระโรงของหมู่พระมหามณเฑียร นามของพระที่นั่งพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานสอดคล้องกับรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นพระที่นั่งบุษบกเรือนยอดอย่างไทยประเพณี ขนาบข้างด้วยฉัตรทอง 7 ชั้น ส่วนรองรับบุษบกเป็นชุดฐานสิงห์ประกอบประติมากรรมเทพนมเรียงเป็นแถวที่ท้องไม้และประดับลายกระจังเหนือหน้ากระดานบน ด้านข้างของบุษบกประกอบด้วยเกรินที่มีลักษณะอ่อนโค้งทั้งด้านซ้ายและขวา ทั้งหมดตั้งอยู่บนชุดฐานสิงห์ยกเก็จที่มีความสูงซ้อนชั้นประดับลวดลายไทยที่ชั้นหน้ากระดานล่างและบน มีประติมากรรมครุฑยุดนาคประดับเรียงรายที่ท้องไม้ ด้านบนเป็นพนักประกอบเสาหัวเม็ดทรงมัณฑ์ซึ่งรองรับพระที่นั่งบุษบก โดยชุดฐานที่ประกอบชั้นล่างนี้ทำให้องค์พระที่นั่งมีขนาดความสูงจากพื้นท้องพระโรงเป็นอย่างมาก ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ภาพพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานเสมือนวิมานพระอินทร์หรือปราสาทไพชยนต์ที่สถิตบนเขาพระสุเมรุซึ่งควรค่าแก่พระมหากษัตริย์ผู้เป็นสมมติเทพ โดยแสดงความยิ่งใหญ่แห่งเรือนฐานันดรสูงด้วยบุษบกยอดแหลม แสดงสัญลักษณ์แห่งความสูงของเขาพระสุเมรุศูนย์กลางจักรวาลด้วยชุดฐานที่มีการซ้อนชั้นเพิ่มระดับความสูง และตกแต่งด้วยรูปครุฑยุดนาคซึ่งเชื่อว่าเป็นสัตว์หิมพานต์ที่อาศัยอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ครุฑเหล่านี้อยู่ในท่ากางปีกจึงเสมือนว่ากำลังเหาะอัญเชิญองค์พระที่นั่งหรือพระวิมานให้ล่องลอยอยู่ในนภากาศ รับกับการประดับด้วยรูปเทพนมซึ่งอาจหมายถึงเทวดาบนสวรรค์เบื้องล่างหรือเทวดาที่เป็นบริวารของพระอินทร์ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์