วัดหลวงในกรุงเทพมหานคร มรดกศิลปกรรม แหล่งงานช่างหลวงแห่งแผ่นดิน
October 29, 2023
ระดับความสูงของพื้นและเครื่องหลังคาของหมู่พระมหามณเฑียร
สถาปัตยกรรมหมู่พระมหามณเฑียรมีขนาดความกว้างใหญ่และยกระดับความสูงจากพื้นดินที่แตกต่างกัน โดยพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานมีการยกระดับพื้นให้สูงที่สุดคือมีความสูงจากพื้นดิน 2.40 เมตร ในขณะที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณฯ ยกระดับความสูงจากพื้นดิน 2.00 เมตร และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ยกระดับความสูงจากพื้นดินเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ระดับความสูงจากพื้นดินของพระที่นั่งแต่ละองค์ยังสัมพันธ์กับการลดระดับเครื่องหลังคาด้วย โดยเครื่องหลังคาของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานจะมีความสูงมากที่สุดและลดหลั่นลงมายังพระที่นั่งไพศาลทักษิณฯ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ตามลำดับ การลดหลั่นของระดับความสูงจากพื้นดินและความสูงของเครื่องหลังคาเช่นนี้สะท้อนถึงฐานันดรศักดิ์แห่งสถาปัตยกรรมที่แสดงให้เห็นว่าพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานซึ่งเป็นที่ประทับบรรทมย่อมเป็นพื้นที่รโหฐานที่สำคัญสูงสุด และจากระดับความสูงที่สุดในหมู่พระมหามณเฑียรจึงอาจตีความได้ว่าพระที่นั่งองค์นี้เปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางจักรวาลในขณะที่พระมหากษัตริย์ประทับรรทมด้วย ถัดมาจึงเป็นพระที่นั่งไพศาลทักษิณฯ ซึ่งเป็นที่ประทับและประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาจเทียบได้กับชมพูทวีปดินแดนอันเป็นศูนย์กลางที่อุบัติแห่งพระมหาจักรพรรดิราช และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ซึ่งเป็นท้องพระโรงฝ่ายหน้าสำหรับเสด็จออกให้ขุนนางเข้าเฝ้าฯ อาจเทียบได้กับการเสด็จออกขององค์อมรินทร์ ณ เทวสภาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพระมหากษัตริย์จะเสด็จประทับ […]
October 29, 2023
หมู่พระมหามณเฑียร
หมู่พระมหามณเฑียรเป็นหมู่พระที่นั่งที่ประทับของพระมหากษัตริย์ที่มีความสำคัญและมีอายุเก่าแก่ที่สุดในพระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในต่อเนื่องไปยังเขตพระราชฐานกลาง ถือเป็นพระราชมณเฑียรแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเพื่อทรงประกอบพระราชพิธีและเป็นที่ประทับตลอดรัชสมัย และยังเป็นมณฑลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรีสืบเนื่องต่อกันมาในทุกรัชกาล ข้อมูลความสำคัญของหมู่พระมหามณเฑียรได้เผยแพร่ในหนังสือหลายเล่มที่สำคัญเล่มหนึ่งคือ หนังสือเรื่อง “พระมหาปราสาทและพระราชมณเฑียรในพระบรมมหาราชวัง” เรียบเรียงโดย ม.ร.ว.แสงสูรย์ ลดาวัลย์ จัดพิมพ์โดยสำนักพระราชวัง ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2507 เป็นหนังสือที่ผู้เขียนได้ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลประวัติความเป็นมาของหมู่พระมหามณเฑียรจากหลักฐานต่าง ๆ และมีภาพประกอบซึ่งขณะนั้นยังเป็นภาพขาวดำ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการบูรณะซ่อมแซมพระบรมมหาราชวังครั้งใหญ่ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จนิวัตพระนครและประทับถาวรในพระราชอาณาจักร และเพื่อสนองพระราชดำริที่ได้พระราชทานพระราชกระแสแนะนำว่า มหาปราสาทราชมณเฑียรและปูชนียสถานในพระบรมมหาราชวังเป็นวัตถุสถานที่มีความสำคัญและมีค่าทางศิลปะเป็นที่สนใจกันอยู่โดยทั่วไป ควรที่จะได้ค้นคว้าจัดทำประวัติขึ้นให้รู้ว่ามีความสำคัญอย่างไร จึงนับเป็นงานค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่พระมหามณเฑียรที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 60 […]
October 29, 2023
พระบรมมหาราชวัง – ต้นแบบของงานช่างหลวงสมัยรัตนโกสินทร์กับสถาบันพระมหากษัตริย์
พระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และศูนย์กลางในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งราชประเพณีและศิลปวัฒนธรรมนานาประการ เสมือนเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่เมื่อแรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ศิลปกรรมต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวัง สร้างขึ้นโดยช่างหลวงตามพระราชประสงค์ จึงมีความประณีตงดงาม และเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมประเพณีแห่งยุคสมัย นับเป็นศิลปกรรมต้นแบบที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปกรรมอื่น ๆ  ศิลปกรรมหลายประการในพระบรมมหาราชวังสร้างขึ้นโดยมีคติความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องศูนย์กลางจักรวาลอย่างโบราณที่ผูกพันกับเรื่องในศาสนาและความศรัทธาที่มีต่อพระมหากษัตริย์ การศึกษาศิลปกรรมในพระบรมมหาราชวังอันเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีต่างๆ จะทำให้เห็นพัฒนาการทางด้านรูปแบบและแนวคิดในการสร้างที่ปรับเปลี่ยนไปตามพระราชนิยม สภาพสังคมและวัฒนธรรม และเน้นย้ำให้เห็นถึงคุณค่าความสำคัญของการเป็นแหล่งศิลปกรรมต้นแบบของงานช่างหลวงสมัยรัตนโกสินทร์กับสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่อาจเทียบได้กับแห่งอื่น    
October 24, 2023
พระราชวังบวรสถานมงคลกับเอกลักษณ์ศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้า
งานศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้าซึ่งมีเอกลักษณ์บางประการที่ต่างกับงานศิลปกรรมของช่างฝ่ายวังหลวงนั้นกล่าวได้ว่ามีพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นศูนย์กลาง โดยในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ที่ได้ทรงสถาปนาสมเด็จพระอนุชาธิราชขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลพระองค์แรกในสมัยรัตนโกสินทร์พระนามว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิหนาท นั้น พบว่างานที่สร้างหรือปฏิสังขรณ์โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิหนาทมีเอกลักษณ์ที่โด่ดเด่นเห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยได้รับการสืบสานและพัฒนาเอกลักษณ์ทางงานศิลปกรรมต่อมาในสมัย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นอีกช่วงเวลาที่พบผลงานทางศิลปกรรมของกลุ่มช่างวังหน้าเป็นจำนวนมากรองลงมา สิ่งก่อสร้างภายในพระราชวังบวรสถานมงคลซึ่งเป็นตัวอย่างงานศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้าที่สำคัญที่สุดนั้น เดิมทีพื้นที่และสิ่งก่อสร้างภายในพระราชวังบวรสถานมงคลมีจำนวนมากกว่าปัจจุบัน จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อตำแหน่งพระราชวังบวรสถานมงคลถูกยกเลิก ผนวกกับสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลายากที่จะซ่อมแซม ในปี พ.ศ. 2443 ป้อมและอาคารบางส่วนจึงถูกรื้อออก ด้วยเหตุนี้เองจึงเหลือสิ่งก่อสร้างที่ตกทอดถึงปัจจุบันไม่มาก […]
October 24, 2023
อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ – กลุ่มที่ 1 แบบไทยประเพณีสีมาและซุ้มสีมา
“อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ – กลุ่มที่ 1 แบบไทยประเพณีสีมาและซุ้มสีมา” การทำซุ้มสีมาถือเป็นงานศิลปกรรมที่โดดเด่นอย่างหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 1-3 โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 3 จัดเป็นลักษณะเฉพาะทางสถาปัตยกรรมที่มีพัฒนาการทั้งด้านความคิดในการออกแบบและรูปแบบศิลปกรรมที่แตกต่างกัน อาจกล่าวได้ว่าเป็นความนิยมที่เกิดขึ้นเฉพาะในรัชสมัยนี้ ซุ้มสีมาที่ทำขึ้นในระยะแรก คือ สีมานั่งแท่นที่สืบทอดมาจากสมัยอยุธยาตอนปลาย ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นทรงกูบ (กูบช้าง) ซึ่งมีมาแล้วตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายเช่นเดียวกัน ครั้นถึงสมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 จึงมีพระราชนิยมทำเป็นซุ้มสีมาทรงเรือน และมีหลายแบบตามลักษณะของอาคารหลังคาคลุม […]
October 24, 2023
ซุ้มทรงปราสาทยอด
“อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ – กลุ่มที่ 1 แบบไทยประเพณีซุ้มทรงปราสาทยอด” ซุ้มประตูและหน้าต่างอีกประเภทหนึ่งทำเป็นทรงปราสาทยอด มีลักษณะสำคัญคือ ส่วนฐานมีฐานสิงห์รองรับ ช่องประตูหรือหน้าต่าง มีเสากรอบประตูประดับกาบพรหมศร บัวหัวเสา ส่วนซุ้มเป็นปราสาทยอด ซึ่งจำลองมาจากปราสาทที่ทำเป็นหลังเรือนยอด คล้ายกับยอดของปราสาทที่ประทับของพระมหากษัตริย์ ลักษณะดังกล่าวนี้ถือเป็นอาคารแบบประเพณีนิยมที่พบมาแล้วอย่างน้อยตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย แนวคิดในการสร้างซุ้มประตูและหน้าต่างที่มีเสารองรับส่วนหลังคาที่เป็นปราสาทยอดนี้ ถือว่าประตูและหน้าต่างเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นปราสาท เช่นเดียวกับพระอุโบสถที่มีความหมายของปราสาทด้วยเช่นกัน ใช้ในความหมายเสมือนว่าพระพุทธเจ้าประทับอยู่ภายในปราสาท กล่าวคือเวลาที่มองจากภายนอกผ่านช่องประตูหรือหน้าต่าง โดยเฉพาะประตูกลางจะเห็นเป็นพระพุทธเจ้าประทับนั่งภายในปราสาทอย่างแท้จริง  
October 24, 2023
ซุ้มทรงบรรพแถลง
“อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ – กลุ่มที่ 1 แบบไทยประเพณี ซุ้มทรงบรรพแถลง” ลักษณะของประตูและหน้าต่าง ประกอบด้วยฐานสิงห์รองรับกรอบประตูและหน้าต่าง เสาย่อมุม หัวเสาประดับด้วยบัวแวงทั้งด้านล่างและบน (บัวด้านล่างเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากาบพรหมศร) ซุ้มทำเป็นหน้าบันจำลอง มีหลังคาหน้าจั่วซ้อนกัน 2 ชั้น ป้านลมเป็นนาคลำยองประดับ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ส่วนหน้าบันเป็นไม้แกะสลักเป็นเทพนมล้อมรอบด้วยลายกระหนก แนวความคิดในการออกแบบสถาปัตยกรรมอธิบายได้อีกอย่างหนึ่งว่าทั้งประตูและหน้าต่างมีการออกแบบตกแต่งให้เหมือนกับอาคารหลังหนึ่ง ประกอบด้วยฐานที่เป็นฐานสิงห์รองรับ มีส่วนของกรอบหน้าต่างคือเสาอาคาร […]
October 24, 2023
อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ – กลุ่มที่ 1 แบบไทยประเพณี – หน้าบันแบบไทยประเพณี
อาคารประกอบด้วยไขราที่ประดับ ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันประดับลวดลายไม้จำหลักเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑตรงกลาง ล้อมรอบด้วยลายกระหนกเปลว มีลายเทพนมแทรกอยู่ในกระหนกเปลว ตัวอย่างที่สำคัญคือ หน้าบันพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 วัดสุวรรณาราม เขตบางกอกน้อย สร้างสมัยรัชกาลที่ 3 เป็นต้น หน้าบันลักษณะนี้จัดเป็นแบบประเพณีนิยมที่มีรูปแบบที่สืบทอดมาจากศิลปะสมัยอยุธยา ซึ่งนิยมประดับประติมากรรมรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ อาจใช้ในความหมายของวัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างหรือเป็นผู้อุปถัมภ์ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำสืบต่อกันมา จนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่เปลี่ยนเป็นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ เช่น ที่วัดสุทัศนเทพวราราม  
October 24, 2023
อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ กลุ่มที่ 3 แบบพระราชนิยม
““อาคารหลังคาคลุม (พระอุโบสถ พระวิหาร) ในสมัยรัตนโกสินทร์ กลุ่มที่ 3 แบบพระราชนิยม” อาคารแบบ “พระราชนิยม” หมายถึงรูปแบบที่ถือเป็นพระราชนิยมในรัชกาลที่ 3 ได้แก่วัดที่มีพระอุโบสถหรือพระวิหารที่มีอิทธิพลของศิลปะจีน คือ แบบเก๋งจีน ส่วนที่ปรับเปลี่ยนคือส่วนหน้าบันเป็นงานก่ออิฐถือปูน ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเป็นลวดลายแบบจีน ไม่มีเครื่องลำยอง คือ ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ มีการเพิ่มเติมโครงสร้างของอาคารครั้งสำคัญอย่างใหม่คือ มีเฉลียงหรือพาไล และมีเสาเฉลียงเป็นตัวน้ำหนักด้านข้าง เสาเฉลียงมักเป็นแท่งสี่เหลี่ยมทึบ ขนาดใหญ่ […]