admin
October 29, 2023
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน
พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นกลาง มีรูปแบบเป็นอาคารแบบไทยประเพณี หลังคาซ้อนชั้นมุงกระเบื้องสีเขียวคาดขอบสีเหลืองและส้ม กรอบหน้าบันประดับเครื่องลำยอง นามของพระที่นั่งนี้หมายถึง วิมานที่ประทับของพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ทรงพิจารณาตัดสินความ จึงเป็นการสะท้อนความเชื่อที่ว่าพระมหากษัตริย์เปรียบประดุจดังองค์อมรินทร์ ผู้เป็นราชาแห่งเทพยดาทั้งปวงที่สถิตยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทรงพิจารณาตัดสินวินิจฉัยข้อราชการต่าง ๆ   สอดคล้องกับหน้าที่ของพระที่นั่งซึ่งเป็นท้องพระโรงฝ่ายหน้าของหมู่พระมหามณเฑียรสำหรับเสด็จออกทรงบริหารราชการแผ่นดิน   
October 29, 2023
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ
พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นพระที่นั่งองค์หนึ่งในหมู่พระมหามณเฑียรที่สร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เดิมเรียกกันว่าพระที่นั่งสิบเอ็ดห้อง เนื่องจากมีขนาดกว้างใหญ่และยาวถึงสิบเอ็ดห้องหรือสิบเอ็ดช่วงเสา ทอดตัวตามแนวตะวันออก-ตะวันตก ต่อมาในรัชกาลที่ 3 ได้พระราชทานนามพระที่นั่งองค์นี้ว่า พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในภายหลังได้พบว่ามีการออกนามเต็มโดยเรียกพระที่นั่งองค์นี้ว่า พระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมาน หากพิจารณาจากนามเต็มของพระที่นั่งจะพบว่ามีความหมายถึง วิมานที่ประทับของผู้ยิ่งใหญ่แห่งทิศใต้อันกว้างใหญ่ อาจอธิบายความหมายได้ว่า พระที่นั่งนี้สื่อแทนถึงพื้นที่แห่งชมพูทวีปซึ่งเป็นดินแดนอันกว้างใหญ่และอยู่ทางทิศใต้ของเขาพระสุเมรุ ในคัมภีร์ที่เกี่ยวกับโลกสัณฐานมักกล่าวตรงกันถึงความสำคัญของชมพูทวีปไว้ว่าเป็นดินแดนที่อุบัติของมหาบุรุษคือพระพุทธเจ้า และพระมหาจักรพรรดิราชซึ่งเป็นผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่ามหากษัตริย์อื่นใดทั้งปวง นามของพระที่นั่งไพศาลทักษิณมหินทรพิมานจึงสะท้อนให้เห็นว่า พระมหากษัตริย์ผู้สถิตประทับ ณ พระที่นั่งนี้ก็คือพระมหาจักรพรรดิราชผู้ทรงไว้ซึ่งธรรมราชาและเป็นผู้ปกครองชมพูทวีปตามคติความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ สอดคล้องกับหน้าที่สำคัญของพระที่นั่งองค์นี้ที่ใช้ในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือการเสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ซึ่งมีทั้งขั้นตอนการถวายน้ำอภิเษก การถวายสิริราชสมบัติ เครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ […]
October 29, 2023
ซุ้มพระทวารใกล้กับพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน
ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งโถงชิดด้านหน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยมไหสูรยพิมาน และ สร้างพระทวารที่สำคัญอีก 2 แห่ง คือ พระทวารเทวาภิบาลที่ด้านทิศเหนือ และพระทวารเทเวศร์รักษาที่ด้านทิศตะวันตก ที่ทับหลังของพระทวารเทวาภิบาลบานกลางซึ่งเป็นทางเสด็จพระราชดำเนินมีภาพนูนต่ำปิดทองรูปเทวดา 2 องค์ในท่าเหาะ องค์หนึ่งเงื้อพระขรรค์ อีกองค์อยู่ในท่าอัญชลี ส่วนทับหลังของซุ้มพระทวารเทเวศร์รักษามีรูปเทวดาเหาะถือพระขรรค์ ขนาบข้างด้วยยักษ์ 2 ตน ประติมากรรมรูปเทวดาทั้งสองแห่งคงสร้างขึ้นเพื่อให้พ้องกับนามของพระทวาร รูปลักษณ์ของเทวดาเป็นการถวายอารักขาและถวายพระพรแด่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์เมื่อเสด็จพระราชดำเนินผ่าน นอกจากนี้ ยังมีซุ้มพระทวารด้านทิศตะวันออกและตะวันตกใกล้กับพระที่นั่งโถงที่อยู่ด้านหน้าพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ที่ทับหลังมีประติมากรรมนูนต่ำปิดทองรูปเทวดาทั้งด้านในและด้านนอก รวมทั้งสิ้น […]
October 29, 2023
พระแท่นมหาเศวตฉัตร
พระแท่นมหาเศวตฉัตร เป็นพระราชบัลลังก์แบบไทยประเพณี ตั้งอยู่ในผังสี่เหลี่ยมยกเก็จที่มีความสูงซ้อนชั้นลดหลั่นกัน แต่ละชั้นประดับลวดลายไทย โดยชั้นแรกเป็นฐานสิงห์ ถัดขึ้นไปเป็นชั้นครุฑยุดนาคและชั้นเทพนมตามลำดับ ด้านบนเป็นพนักประกอบเสาหัวเม็ดทรงมัณฑ์และกระพอง เว้นช่วงที่ด้านหน้าสำหรับประทับนั่งห้อยพระบาท เบื้องล่างที่ด้านหน้ายกเก็จเป็นแท่นลดสำหรับรองรับพระบาท พระแท่นมหาเศวตฉัตรเป็นพระราชบัลลังก์สำหรับพระมหากษัตริย์เสด็จออกมหาสมาคมในพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา โดยเจ้าพนักงานจะอัญเชิญพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ซึ่งเป็นพระที่นั่งที่ตกแต่งด้วยศิลปะไทยประเพณีและมีขนาดย่อมกว่า ขึ้นทอดบนพระแท่นมหาเศวตฉัตรอีกชั้นหนึ่งเพื่อเป็นพระราชบัลลังก์ ตั้งโต๊ะทองเคียงสองข้าง และประดับต้นไม้เงินต้นไม้ทองที่มุมทั้ง 4 ของพระราชบัลลังก์ เมื่อพระมหากษัตริย์เสด็จประทับนั่งห้อยพระบาทเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ที่ซ้อนอยู่เหนือพระแท่นมหาเศวตฉัตรในพระราชพิธีสำคัญดังกล่าว จึงเปรียบเสมือนองค์อมรินทร์ที่ประทับบนยอดเขาพระสุเมรุที่แสดงออกผ่านพระราชบัลลังก์ที่มีความสูงตระหง่าน และตอกย้ำแนวคิดนี้ด้วยผ้าทิพย์ด้านหน้าของที่ประทับซึ่งประดับรูปช้างเอราวัณพาหนะแห่งพระอินทร์ รวมทั้งการประดับสัญลักษณ์รูปครุฑยุดนาคและเทพนมที่ฐานแต่ละชั้นของพระราชบัลลังก์เพื่อสื่อแทนภพภูมิของสิ่งต่าง ๆ ในจักรวาลที่อยู่เบื้องล่างของเขาพระสุเมรุ ขณะเดียวกันต้นไม้เงินต้นไม้ทองที่ประดับมุมของพระราชบัลลังก์ก็เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แทนป่าหิมพานต์ที่อยู่ในทวีปเชิงเขาพระสุเมรุที่ประทับอันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล […]
October 29, 2023
พระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมาน
พระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานประดิษฐานอยู่ตอนในสุดของพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ซึ่งเป็นท้องพระโรงของหมู่พระมหามณเฑียร นามของพระที่นั่งพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานสอดคล้องกับรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นพระที่นั่งบุษบกเรือนยอดอย่างไทยประเพณี ขนาบข้างด้วยฉัตรทอง 7 ชั้น ส่วนรองรับบุษบกเป็นชุดฐานสิงห์ประกอบประติมากรรมเทพนมเรียงเป็นแถวที่ท้องไม้และประดับลายกระจังเหนือหน้ากระดานบน ด้านข้างของบุษบกประกอบด้วยเกรินที่มีลักษณะอ่อนโค้งทั้งด้านซ้ายและขวา ทั้งหมดตั้งอยู่บนชุดฐานสิงห์ยกเก็จที่มีความสูงซ้อนชั้นประดับลวดลายไทยที่ชั้นหน้ากระดานล่างและบน มีประติมากรรมครุฑยุดนาคประดับเรียงรายที่ท้องไม้ ด้านบนเป็นพนักประกอบเสาหัวเม็ดทรงมัณฑ์ซึ่งรองรับพระที่นั่งบุษบก โดยชุดฐานที่ประกอบชั้นล่างนี้ทำให้องค์พระที่นั่งมีขนาดความสูงจากพื้นท้องพระโรงเป็นอย่างมาก ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ส่งผลให้ภาพพระที่นั่งบุษบกมาลามหาจักรพรรดิพิมานเสมือนวิมานพระอินทร์หรือปราสาทไพชยนต์ที่สถิตบนเขาพระสุเมรุซึ่งควรค่าแก่พระมหากษัตริย์ผู้เป็นสมมติเทพ โดยแสดงความยิ่งใหญ่แห่งเรือนฐานันดรสูงด้วยบุษบกยอดแหลม แสดงสัญลักษณ์แห่งความสูงของเขาพระสุเมรุศูนย์กลางจักรวาลด้วยชุดฐานที่มีการซ้อนชั้นเพิ่มระดับความสูง และตกแต่งด้วยรูปครุฑยุดนาคซึ่งเชื่อว่าเป็นสัตว์หิมพานต์ที่อาศัยอยู่เชิงเขาพระสุเมรุ ครุฑเหล่านี้อยู่ในท่ากางปีกจึงเสมือนว่ากำลังเหาะอัญเชิญองค์พระที่นั่งหรือพระวิมานให้ล่องลอยอยู่ในนภากาศ รับกับการประดับด้วยรูปเทพนมซึ่งอาจหมายถึงเทวดาบนสวรรค์เบื้องล่างหรือเทวดาที่เป็นบริวารของพระอินทร์ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
October 29, 2023
ระดับความสูงของพื้นและเครื่องหลังคาของหมู่พระมหามณเฑียร
สถาปัตยกรรมหมู่พระมหามณเฑียรมีขนาดความกว้างใหญ่และยกระดับความสูงจากพื้นดินที่แตกต่างกัน โดยพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานมีการยกระดับพื้นให้สูงที่สุดคือมีความสูงจากพื้นดิน 2.40 เมตร ในขณะที่พระที่นั่งไพศาลทักษิณฯ ยกระดับความสูงจากพื้นดิน 2.00 เมตร และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ยกระดับความสูงจากพื้นดินเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้ระดับความสูงจากพื้นดินของพระที่นั่งแต่ละองค์ยังสัมพันธ์กับการลดระดับเครื่องหลังคาด้วย โดยเครื่องหลังคาของพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานจะมีความสูงมากที่สุดและลดหลั่นลงมายังพระที่นั่งไพศาลทักษิณฯ และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ตามลำดับ การลดหลั่นของระดับความสูงจากพื้นดินและความสูงของเครื่องหลังคาเช่นนี้สะท้อนถึงฐานันดรศักดิ์แห่งสถาปัตยกรรมที่แสดงให้เห็นว่าพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานซึ่งเป็นที่ประทับบรรทมย่อมเป็นพื้นที่รโหฐานที่สำคัญสูงสุด และจากระดับความสูงที่สุดในหมู่พระมหามณเฑียรจึงอาจตีความได้ว่าพระที่นั่งองค์นี้เปรียบเสมือนเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางจักรวาลในขณะที่พระมหากษัตริย์ประทับรรทมด้วย ถัดมาจึงเป็นพระที่นั่งไพศาลทักษิณฯ ซึ่งเป็นที่ประทับและประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก อาจเทียบได้กับชมพูทวีปดินแดนอันเป็นศูนย์กลางที่อุบัติแห่งพระมหาจักรพรรดิราช และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยฯ ซึ่งเป็นท้องพระโรงฝ่ายหน้าสำหรับเสด็จออกให้ขุนนางเข้าเฝ้าฯ อาจเทียบได้กับการเสด็จออกขององค์อมรินทร์ ณ เทวสภาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพระมหากษัตริย์จะเสด็จประทับ […]
October 29, 2023
หมู่พระมหามณเฑียร
หมู่พระมหามณเฑียรเป็นหมู่พระที่นั่งที่ประทับของพระมหากษัตริย์ที่มีความสำคัญและมีอายุเก่าแก่ที่สุดในพระบรมมหาราชวัง ตั้งอยู่ในเขตพระราชฐานชั้นในต่อเนื่องไปยังเขตพระราชฐานกลาง ถือเป็นพระราชมณเฑียรแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ สร้างขึ้นตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชเพื่อทรงประกอบพระราชพิธีและเป็นที่ประทับตลอดรัชสมัย และยังเป็นมณฑลพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ในพระราชวงศ์จักรีสืบเนื่องต่อกันมาในทุกรัชกาล ข้อมูลความสำคัญของหมู่พระมหามณเฑียรได้เผยแพร่ในหนังสือหลายเล่มที่สำคัญเล่มหนึ่งคือ หนังสือเรื่อง “พระมหาปราสาทและพระราชมณเฑียรในพระบรมมหาราชวัง” เรียบเรียงโดย ม.ร.ว.แสงสูรย์ ลดาวัลย์ จัดพิมพ์โดยสำนักพระราชวัง ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2507 เป็นหนังสือที่ผู้เขียนได้ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลประวัติความเป็นมาของหมู่พระมหามณเฑียรจากหลักฐานต่าง ๆ และมีภาพประกอบซึ่งขณะนั้นยังเป็นภาพขาวดำ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการบูรณะซ่อมแซมพระบรมมหาราชวังครั้งใหญ่ภายหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จนิวัตพระนครและประทับถาวรในพระราชอาณาจักร และเพื่อสนองพระราชดำริที่ได้พระราชทานพระราชกระแสแนะนำว่า มหาปราสาทราชมณเฑียรและปูชนียสถานในพระบรมมหาราชวังเป็นวัตถุสถานที่มีความสำคัญและมีค่าทางศิลปะเป็นที่สนใจกันอยู่โดยทั่วไป ควรที่จะได้ค้นคว้าจัดทำประวัติขึ้นให้รู้ว่ามีความสำคัญอย่างไร จึงนับเป็นงานค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่พระมหามณเฑียรที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 60 […]
October 29, 2023
พระบรมมหาราชวัง – ต้นแบบของงานช่างหลวงสมัยรัตนโกสินทร์กับสถาบันพระมหากษัตริย์
พระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์และศูนย์กลางในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งราชประเพณีและศิลปวัฒนธรรมนานาประการ เสมือนเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่เมื่อแรกสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ศิลปกรรมต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวัง สร้างขึ้นโดยช่างหลวงตามพระราชประสงค์ จึงมีความประณีตงดงาม และเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมประเพณีแห่งยุคสมัย นับเป็นศิลปกรรมต้นแบบที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปกรรมอื่น ๆ  ศิลปกรรมหลายประการในพระบรมมหาราชวังสร้างขึ้นโดยมีคติความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเรื่องศูนย์กลางจักรวาลอย่างโบราณที่ผูกพันกับเรื่องในศาสนาและความศรัทธาที่มีต่อพระมหากษัตริย์ การศึกษาศิลปกรรมในพระบรมมหาราชวังอันเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีต่างๆ จะทำให้เห็นพัฒนาการทางด้านรูปแบบและแนวคิดในการสร้างที่ปรับเปลี่ยนไปตามพระราชนิยม สภาพสังคมและวัฒนธรรม และเน้นย้ำให้เห็นถึงคุณค่าความสำคัญของการเป็นแหล่งศิลปกรรมต้นแบบของงานช่างหลวงสมัยรัตนโกสินทร์กับสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่อาจเทียบได้กับแห่งอื่น    
October 24, 2023
พระราชวังบวรสถานมงคลกับเอกลักษณ์ศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้า
งานศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้าซึ่งมีเอกลักษณ์บางประการที่ต่างกับงานศิลปกรรมของช่างฝ่ายวังหลวงนั้นกล่าวได้ว่ามีพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นศูนย์กลาง โดยในรัชสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ที่ได้ทรงสถาปนาสมเด็จพระอนุชาธิราชขึ้นเป็นกรมพระราชวังบวรสถานมงคลพระองค์แรกในสมัยรัตนโกสินทร์พระนามว่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิหนาท นั้น พบว่างานที่สร้างหรือปฏิสังขรณ์โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิหนาทมีเอกลักษณ์ที่โด่ดเด่นเห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยได้รับการสืบสานและพัฒนาเอกลักษณ์ทางงานศิลปกรรมต่อมาในสมัย สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นอีกช่วงเวลาที่พบผลงานทางศิลปกรรมของกลุ่มช่างวังหน้าเป็นจำนวนมากรองลงมา สิ่งก่อสร้างภายในพระราชวังบวรสถานมงคลซึ่งเป็นตัวอย่างงานศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้าที่สำคัญที่สุดนั้น เดิมทีพื้นที่และสิ่งก่อสร้างภายในพระราชวังบวรสถานมงคลมีจำนวนมากกว่าปัจจุบัน จนกระทั่งในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อตำแหน่งพระราชวังบวรสถานมงคลถูกยกเลิก ผนวกกับสิ่งก่อสร้างต่างๆ ทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลายากที่จะซ่อมแซม ในปี พ.ศ. 2443 ป้อมและอาคารบางส่วนจึงถูกรื้อออก ด้วยเหตุนี้เองจึงเหลือสิ่งก่อสร้างที่ตกทอดถึงปัจจุบันไม่มาก […]