
ตลาดสดต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สู่การสร้างตึกแถวโครงการใหญ่ในเขตกำแพงเมืองสมัยรัชกาลที่ 5

กระจกเกรียบแบบกระเปาะ บริเวณผ้าทิพย์พระพุทธอาสน์พระพุทธเทวปฏิมากร
การศึกษาการบูรณะและอนุรักษ์งานศิลปกรรมกระจกเกรียบในพระอารามหลวง พบว่ามีการบูรณะด้วยกระจกแก้วและวัสดุยึดติดกระจกชนิดใหม่ โดยเฉพาะหลักฐานการบูรณะครั้งเมื่อครบรอบ 200 ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2525-2528) ได้พบว่า มีการใช้กระจกแก้วทดแทนกระจกเกรียบ และมีการบูรณะโดยใช้กาวอิพ็อกซีติดชิ้นกระจกแก้ว เพื่อซ่อมแซมในส่วนที่หลุดหายไป โดยได้พบหลายแห่ง พบความเสียหายที่เกิดขึ้นจะแบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ ความขุ่นมัวของผิวหนากระจกเนื่องจากกาลเวลา (ภาพที่ 1) การผุของผนังปูนและการล่อนออกของแผ่นกระจกเกรียบที่ประดับถมพื้นท้องไม้ (ภาพที่ 2) และความเสียหายจากกาวอีพ็อกซีครั้งบูรณะด้วยกระจกแก้วสมัยใหม่ (ภาพที่ 3)
.
การบูรณะด้วยกระจกแก้วสมัยใหม่ ปะปนกับกระจกเกรียบของเก่า ส่งผลทำให้เกิดความไม่กลมกลืนของการบูรณะ และการใช้กระจกแก้วสมัยใหม่ที่มีน้ำหนักมากกว่ากระจกเกรียบในขนาดเท่ากัน ช่างต้องใช้กาวอีพ็อกซี่ ซึ่งเป็นสารเคมีจำพวกพอลิเมอร์ที่มีคุณสมบัติติดแน่นเป็นวัสดุในการยึดเกาะแทนเทือกรัก ซึ่งวัสดุยึดเกาะกระจกเกรียบจากธรรมชาติที่ช่างโบราณเลือกใช้ อันเป็นการลดทอนคุณค่าทางวัสดุศาสตร์ของงานช่างไทยโบราณ

การผุของผนังปูนและการล่อนออกของแผ่นกระจกเกรียบที่ประดับ

ความเสียหายจากกาวอีพ็อกซีครั้งบูรณะด้วยกระจกแก้วสมัยใหม่