
ลายขนมปังขิงประดับช่องแสง ณ แพร่งภูธร

ถนนเจริญกรุงตอนในกับตึกแถว
การศึกษาสถาปัตยกรรมย่านสามแพร่ง : แพร่งนรา แพร่งสรรพศาสตร์ และแพร่งภูธร ทำให้ทราบว่าอาคารสถาปัตยกรรมย่านสามแพร่ง สมัยรัชกาลทีี่ 5 แสดงให้เห็นเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมไทยในยุคนี้ที่มีการผสมผสานรูปแบบศิลปกรรมแบบตะวันตกเข้ากับงานช่างไทยได้เป็นอย่างดี กล่าวคือช่างมีการเลือกเอาเทคนิคการประดับอาคาร เช่น การทำเสาอิง (Pilaster) การตกแต่งหัวเสาตามระบบเสาในศิลปะคลาสสิค การตกแต่งผนังด้วยวิธี Rustication การประดับหลายส่วนของอาคารด้วยลายไม้ฉลุ ตลอดจนการประดับซุ้มประตูด้วยกระจกสีอย่างตะวันตกมาใช้ ขณะเดียวกันยังคงออกแบบโครงสร้างหลักของอาคาร ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยที่มีทั้งเจ้านาย ข้าราชการ และพ่อค้าได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดคือรูปแบบของตึกแถวซึ่งโครงสร้างอาคารยังคงความเป็นจีนผสมไทยอยู่ (ภาพที่ 1)
.
ปัจจัยที่ส่งผลให้อาคารสถาปัตยกรรมในย่านนี้มีเอกลักษณ์ดังที่กล่าวมา คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบวิถีชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มคนในย่านสามแพร่งอันเนื่องมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้สอดคล้องกับระบบการค้าเสรี นอกจากจะทำให้เกิดธุรกิจแบบใหม่ขึ้น อาทิ ธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจด้านการค้าที่ดินเพื่อการลงทุน ที่มิใช่เพื่อการเกษตรกรรมอย่างเช่นอดีต ยังนำไปสู่การพัฒนาด้านคมนามคม และด้านการสาธารณูปโภค เพื่อสนับสนุนระบบการค้าแบบใหม่นี้ให้เจริญรุดหน้าอีกต่อหนึ่ง (ภาพที่ 2)

ซ้าย – ขวา) ตึกแถวในแพร่งภูธร ตำหนักหนึ่งของวังวรวรรณในแพร่งนรา และซุ้มประตูทางเข้าวังในแพร่งสรรพศาสตร์