
พระราชวังบวรสถานมงคลกับเอกลักษณ์ศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้า เรื่อง เครื่องประกอบหลังคา

พระราชวังบวรสถานมงคลกับเอกลักษณ์ศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้า เรื่อง พระอุโบสถ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์
ลักษณะโดยรวมของหน้าบันพระที่นั่งศิวโมกข์พิมานมีสองประเด็นที่น่าสนใจ ประการแรกคือ งานศิลปกรรมที่ปรากฏส่วนหนึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมทำในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1 ซึ่งสืบจากสมัยอยุธยา ได้แก่ ตรงกลางทำเป็นรูปประติมากรรมลอยตัวซึ่งทางทิศตะวันออกทำเป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ ทิศตะวันตกทำเป็นรูปพระพรหมทรงหงส์ ล้อมด้วยลายก้านขดแตกเป็นลายช่อหางโตและรูปครุฑปิดทอง พื้นประดับกระจก เปรียบเทียบได้กับหน้าบันที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และ หน้าบันที่วิหารทิศ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 ต่างจากในสมัยรัชกาลที่ 3 ลงมาที่หน้าบันจะนิยมทำเป็นลายพรรณพฤกษาหรือเรียกลายเครือเถาเคล้าก้าน ประกอบด้วยลายดอกก้านและใบ กลีบดอกและใบประดับกระจกสี แดง ขาว เขียวและน้ำเงิน พื้นหน้าบันติดด้วยกระจกสีน้ำเงินอมเขียว ตัวอย่างเช่น พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดพระเชตุพนฯ, พระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามและ พระอุโบสถและพระวิหาร วัดราชนัดดาราม เป็นต้น เพียงแต่ลายก้านขดบนหน้าบันของพระที่นั่งศิวโมกข์พิมานค่อนข้างแนบติดกับผนังแบบประติมากรรมนูนต่ำซึ่งพบมากในสมัยรัชกาลที่ 3
.
ดังนั้นหน้าบันดังกล่าวจึงสามารถสันนิษฐานช่วงเวลาในการสร้างได้ 2 แนวทาง คือ แนวทางแรกอาจเป็นหน้าบันที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 และมีการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 3 หรือแนวทางที่สองเป็นหน้าบันที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยที่ยังคงรูปแบบบางประการที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 1 ไว้ ซึ่งถ้าหน้าบันดังกล่าวเป็นงานที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 แสดงให้เห็นว่ากลุ่มสกุลช่างวังหน้าในสมัยรัชกาลที่ 3 มีความนิยมในการประดับลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมัยรัชกาลที่ 1 อยู่มาก ต่างจากสกุลช่างหลวงที่นิยมสร้างลวดลายแบบใหม่ ๆ บนหน้าบันแล้ว