
หอไตรวัดสระเกศ แบบแผนที่สืบทอดมาจากศิลปะอยุธยา ผสมผสานงานช่างต้นกรุงรัตนโกสินทร์

ภูมิปัญญาการออกแบบสถาปัตยกรรมหอไตรเครื่องไม้
กำมะลอ คืองานประณีตศิลป์ที่ทำตามแบบอย่างของจีนผสมผสานกับเทคนิควิธีการเขียนลายรดน้ำซึ่งเป็นเอกลักษณ์ทางงานช่างของไทยแขนงหนึ่ง ในที่นี้คือการผสมเทคนิคทางงานช่าง 2 แขนงเข้าด้วยกันคือ การเขียนภาพหรือลวดลายด้วยวิธีแบบลายรดน้ำกับเทคนิควิธีการระบายสีด้วยสีฝุ่นผสมยางรักตามแบบของจีน ซึ่งอาจจะแปลความหมายของคำว่ากำมะลอนี้ว่าไม่แท้ก็ได้ กล่าวคือภาพผลงานที่ปรากฏเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้วไม่สามารถระบุได้ชัดเจนในทางเทคนิคใดเทคนิคหนึ่งทั้งลายรดน้ำและจิตรกรรมไทย สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงอธิบายถึงลักษณะและวิธีการทางช่างของลายกำมะลอไว้ว่า เมื่อลงรักพื้นแล้วเอารักผสมสีระบายลงเป็นพื้นลาย แล้วเอารักตัดเป็นเส้น เอาทองผงโรย ทำอย่างเขียนลายน้ำยามีลักษณะลายโปนสูงขึ้นกว่าพื้น ลายกำมะลอนั้นเป็นวิธีของจีน
งานประดับด้วยลายกำมะลอมีมาตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยา มีการกล่าวถึง “ย่านป่าเตรียบขายตะลุ่ม ภานกำมะลอ ภานเลว ตะลุ่มเชี่ยนหมาก” หลักฐานที่พบในงานศิลปกรรมมักปรากฏกับเครื่องเรือน เช่น ตู้ หีบ หรือปรากฏกับองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม เช่น บานประตู หน้าต่าง สำหรับหอไตรวัดสระเกศนั้นปรากฏงานประดับด้วยลายกำมะลอที่ฝาผนังภายนอกนับว่ามีความพิเศษแตกต่างไปจากแห่งอื่น คือ เขียนลงบนผนังซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่ สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างในต้นรัตนโกสินทร์สมัยรัชกาลที่ 3 เนื่องจากมีประวัติการบูรณะในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีรูปแบบแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ รูปแบบที่เป็นงานจิตรกรรมจีน เขียนเป็นภาพทิวทัศน์ บ้านเรือน และบุคคล และรูปแบบที่เป็นงานจิตรกรรมไทยประเพณี สันนิษฐานว่าเป็นภาพเทวดาบนสวรรค์ ภาพชาดก (วิฑูรบัณฑิตชาดก) และภาพพระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ลายกำมะลอที่เป็นรูปแบบของงานจิตรกรรมไทยนี้จัดได้ว่าเป็นรุ่นที่ 3 ของงานกำมะลอที่ช่างไทยนำวิธีแบบจีนมาเขียนด้วยฝีมือคนไทย การประดับตกแต่งฝาผนังหอไตรซึ่งมีความพิเศษเช่นนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและศักดิ์อันสูงของอาคารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานธรรมเจดีย์ หมายถึง ที่ตั้งแห่งการเคารพบูชาในพระพุทธศาสนา

ลายกำมะลอผนังด้านข้าง รูปแบบศิลปะไทยประเพณี ภาพวิมานเทวดา

ลายกำมะลอผนังสกัดด้านหลัง รูปแบบศิลปะจีน ภาพทิวทัศน์ บ้านเรือน และบุคคล