
กระจกเกรียบในงานศิลปกรรมวัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีศึกษา การประดับกระจกเสมาคู่รอบพระอุโบสถวัดพุทไธศวรรย์

การใช้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ศิลปะเพื่อวิเคราะห์รูปแบบงานศิลปกรรมประดับกระจกเกรียบ
จากการสำรวจพบว่าพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในปัจจุบันมีการบูรณะปฏิสังขรณ์อย่างต่อเนื่อง จนเป็นการประดับด้วยกระจกแก้วสมัยใหม่ (กระจกเงาสีต่าง ๆ) โดยใช้กาวอีพ็อกซีเป็นวัสดุในการยึดติด และซุ้มพระเสมารอบพระอุโบสถ ประจำทิศทั้ง 8 ก็มีการบูรณะเปลี่ยนแปลงมาใช้กระจกแก้วสมัยใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงหลงเหลือกระจกเกรียบในศิลปกรรมงานช่างในสมัยรัชการที่ 3 ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เมื่อคราวบูรณปฏิสังขรณ์วัดในครั้งสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี พุทธศักราช 2525 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โปรดเกล้าฯ รวบรวมกระจกเกรียบชุดเก่าที่ยังคงสภาพดีอยู่นั้น มาประดับไว้ที่เสานางราย บริเวณเฉลียงมุขด้านทิศตะวันตกทั้ง 4 เสา ซึ่งยังปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น จึงได้ใช้กระจกเกรียบชุดเก่าจากเสานางรายมาเป็นต้นแบบในการเปรียบเทียบศึกษาด้านสีและเนื้อของกระจกเกรียบที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ พบว่ามีความกลมกลืนทั้งเนื้อและสีของกระจกอย่างแนบเนียบ จึงสามารถใช้เป็นวัสดุทดแทนกระจกเกรียบในการบูรณะและอนุรักษ์งานศิลปกรรมกระจกเกรียบในวัดพระศรีรัตนศาสดารามได้ต่อไปในอนาคต