
คอนกรีตเสริมเหล็กกับแผงกันสาด

งานช่างกระจกเกรียบในศิลปกรรมไทย เทคนิควิธีการผลิตและการอนุรักษ์
ด้วยกรุงเทพฯ เป็นเมืองพื้นที่ลุ่ม ดังนั้นในอดีตตั้งแต่ครั้งรัตนโกสินทร์ตอนต้น จึงพึ่งพาอาศัยสายน้ำเป็นหลัก กล่าวคือพื้นที่ส่วนมากยังเป็นสวนไร่นาก็ใช้ประโยชน์จากคูคลองเพื่อการเกษตรกรรม ส่วนที่พักอาศัยก็ปรากฏเรือนแพตลอดสองฝั่งริมแม่น้ำ เส้นทางสัญจรก็พึ่งพาแม่น้ำคูคลองเป็นหลัก นอกจากนี้คูคลองที่ขุดยังทำหน้าที่เป็นขอบเขตเมืองที่ขยายตัวออกไปทางทิศตะวันออกได้แก่ คลองคูเมือง และคลองผดุงกรุงเกษม จนกระทั่งสมัยรัชกาลที่ 4 – รัชกาลที่ 5 ที่มีการตัดถนนเพื่อประโยชน์ในการสัญจรเพิ่มขึ้นมามากมาย จึงเกิดเป็นเส้นทางบกตัดเชื่อมกับเส้นทางน้ำเดิม จนเกิดเป็นโครงข่ายเส้นทางที่ผู้คนได้ใช้ประโยชน์และเป็นการจัดระเบียบเมืองในระยะแรกเริ่มให้คล่องตัวและมีประโยชน์ในด้านทำเลค้าขาย มีการสร้างตึกแถวห้างร้านอาคารหันหน้าเลียบถนนเพื่อการเข้าถึงได้ง่าย แต่ก็ยังคงคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยในการขนถ่ายลำเลียงสินค้าที่ยังพึ่งพาทางน้ำเป็นหลักควบคู่ไปด้วย ก่อนที่ในเวลาต่อมาคูคลองจะค่อยๆ ลดบทบาททางการสัญจรลงไป จนเลิกใช้ไปในที่สุด
ตัวอย่างเช่น ห้างบี.กริมแอนโก (B. Grimm & Co.) หนึ่งในห้างยุโรปแรก ๆ ที่เปิดดำเนินกิจการในกรุงเทพฯ และมีการเปิดกิจการสาขาเพิ่มเติม สาขาบริเวณวังบูรพาภิรมย์ (ปัจจุบันคือพื้นที่บริเวณถนนเยาวราช เชิงสะพานภาณุพันธุ์) สร้างหันหน้าเข้าถนน ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่ด้านข้างเลียบคลองที่เป็นท่าลำเลียงขึ้นลงสินค้าควบคู่กันไปด้วย

ห้างบี.กริมแอนด์โก