
ตำแหน่งการประดับลายขนมปังขิง กับการกำหนดอายุตึกแถวย่านสามแพร่ง

วังเจ้า ในย่านสามแพร่ง
พื้นที่บริเวณสามแพร่ง เป็นบริเวณที่มีการอยู่อาศัยมาตั้งแต่ช่วงปลายรัชกาลที่ 4 จนถึงปัจจุบัน มีผู้คนหลากหลายกลุ่มเข้ามาตั้งรกราก ตลอดจนประกอบการค้าในย่านนี้ สอดคล้องกับรูปแบบของบ้านเรือนและห้างร้านที่มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือในช่วงต้นถึงกลางพุทธศตวรรษที่ 25 สามารถแบ่งสิ่งปลูกสร้างที่ปรากฏในพื้นที่สามแพร่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ ตำหนักของเจ้านาย ส่วนใหญ่เป็นหมู่เรือนไม้ที่มีการออกแบบตกแต่งอย่างไทยผสมตะวันตก ถัดมาเรือนไม้ขนาดกลางถึงใหญ่ เป็นรูปแบบบ้านพักของเหล่าข้าราชการและบุคคลสำคัญในอดีต ซึ่งพบมากในแพร่งนราและแพร่งสรรพศาสตร์ โดยเฉพาะบริเวณตรอกกำปะนี และตรอกถ่าน ที่เป็นทางเดินขนาดเล็กเชื่อมระหว่างแพร่งทั้งสอง กับทางออกฝั่งถนนอัษฎางค์ตามลำดับ ตัวอย่างบุคคลสำคัญที่เคยอาศัยอยู่ในย่านนี้ อาทิ หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ ขุนวิจิตรมาตราจอมพล ป.พิบูลสงคราม (ขณะดำรงตำแหน่งเป็นหลวงพิบูลสงคราม) และ มาลัย ชูพินิจ เป็นต้น สุดท้ายคือพื้นที่ตึกแถว มีทั้งที่เป็นตึกแถวชั้นเดียว ตึกแถวสองชั้น ไปจนถึงสามชั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้สอย โดยตึกแถวชั้นเดียวส่วนใหญ่จะเป็นที่พักของเหล่าข้าราชบริพาร มักสร้างอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าพระตำหนัก ขณะที่ตึกแถวสองชั้นจะเน้นให้ชาวบ้านมีทั้งคนไทย แขกยะวา และคนจีนเข้ามาเช่าเพื่อใช้ประกอบการค้าและเป็นบ้านพักไปพร้อมกัน สุดท้ายตึกแถวสามชั้น พบอยู่แห่งเดียวคือตัวห้างแกรเลิต บริเวณแพร่งสรรพศาสตร์ อย่างไรก็ดีนายแกรเลิตเอง จะพักอยู่ในเรือนไม้ใกล้กับตำหนักของกรมหลวงสรรพสาตรศุภิจ ส่วนห้างนั้นจะใช้สำหรับวางขายสินค้าเท่านั้น