
เรือนขนมปังขิง (Gingerbread house) กับการประดับตกแต่งอาคารตึกแถวย่านสามแพร่ง

ลายขนมปังขิง ณ วังวรวรรณ
การสร้างตึกแถวนับแต่ครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ 25 เป็นต้นมา มีมาตรฐานการสร้างที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะขนาดของตัวตึกที่ต้องลึก 10 เมตร เห็นได้จากในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งจะมีการตัดถนนสำเพ็ง โปรดให้ส่งตัวแทนจากพระคลังข้างที่ ได้แก่ นายลามโฮเตีย กับกรมหลวงนเรศวรฤทธิ์ เสนาบดีกระทรวงนครบาลไปเจรจากับกรมสุขาภิบาล เพื่อให้ลดขนาดถนน ช่วยให้พระคลังข้างที่สามารถสร้างตึกแถวได้ตามขนาดมาตรฐาน คือ ลึก 10 เมตร อย่างไรก็ดีไม่ปรากฏการระบุรูปแบบการตกแต่งอาคารหรือด้านหน้าของตึกที่ชัดเจน นอกจากข้อสังเกตที่ว่าตึกแถวตามแหล่งการค้าสำคัญ ที่เป็นย่านการค้าของชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวตะวันตก กับตึกแถวที่ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักมักจะมีการประดับตกแต่งตึกหลังมุมอย่างสวยงามด้วยลวดลายอย่างตะวันตก ทั้งนี้ “ตึกแถวห้องหัวมุม” จะเป็นส่วนสำคัญของอาคารที่นายช่างเลือกแสดงฝีมือ เนื่องจากการวางผังอาคารมุมถนนอย่างตะวันตก ทำให้ตึกแถวห้องหัวมุมเป็นห้องที่มีจำนวนคูหามากกว่าตึกแถวห้องอื่น ประมาณ 1 – 3 คูหา และมีพื้นที่หน้าตัดด้านหน้าอาคารเป็นมุมฉากขนาดใหญ่ ตัวอย่างตึกแถวห้องหัวมุมที่มีการประดับด้านหน้าอาคารอย่างหรูหรา ได้แก่ ห้างสิทธิภัณฑ์ บนถนนเฟื่องนครใกล้สี่กั๊กพระยาศรี นอกจากจะปรากฏการฉาบปูน และเซาะร่องผนังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อเลียนแบบการวางหิน หรืออิฐตลอดแนวผนังของชั้นที่หนึ่งแล้ว ยังมีการประดับหัวเสาที่ขนาบกรอบประตูตามอย่างระบบเสาแบบดอริก (Doric Order) ด้วย ขณะเดียวกันเมื่อมองขึ้นไปด้านหน้าอาคารชั้นสองก็จะพบการนำระบบเสาแบบโครินเธียน (Corinthian Order) มาใช้ควบคู่กับยอดกรอบหน้าต่างทรงจั่ว (Pediment)
แตกต่างกับตึกแถวห้องหัวมุมในย่านสามแพร่งที่มีรูปแบบเรียบง่ายกว่า กล่าวคือบริเวณผนังด้านนอกอาคารชั้นหนึ่งมีการใช้เสาอิงแบ่งช่วงตึกแต่ละคูหา มีการฉาบปูนบนเสาอิง เซาะร่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อเลียนแบบการเรียงหิน ซึ่งคล้ายกับที่ปรากฏบนผนังอาคารของห้างสิทธิภัณฑ์เท่านั้น ไม่พบการประดับหัวเสาแต่อย่างใด นัยหนึ่งน่าจะเป็นผลจากการพยายามควบคุมต้นทุน และการกำหนดผลกำไรไปในคราวเดียวกัน ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการลงทุนสำหรับจัดซื้อและปรับปรุงตึกแถวในแต่ละแห่งแตกต่างกันตามทำเลที่ตั้ง และผลกำไรที่จะได้จากการเรียกเก็บค่าเช่าอีกต่อหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น พระคลังข้างที่ยอมจ่ายเงินถึง 96,000 บาทเพื่อซื้อตึกแถว จำนวน 20 ห้อง ที่ตั้งอยู่ริมถนนเจริญกรุงย่านบางรัก มากกว่าที่เคยลงทุนซื้อตึกแถวบริเวณแพร่งภูธรต่อจากทายาทของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูธเรศธำรงศักดิ์ ซึ่งมีจำนวนห้องเท่ากันถึง 16,000 บาท เป็นต้น

การตกแต่งภายนอกอาคาร ส่วนชั้นที่หนึ่งของตึกแถวหลังหัวมุม บริเวณแพร่งภูธร ฝั่งถนนตะนาว