
กำเนิดตึกแถวย่านสามแพร่ง

ตึกแถวห้องหัวมุม ภาพสะท้อนบทบาทของพระคลังข้างที่ในพุทธศตวรรษที่ 25
อาคารตึกแถวย่านสามแพร่งแม้จะมีรูปแบบเรียบง่าย มีการประดับตกแต่งอาคารที่ไม่ซับซ้อนนัก เมื่อเทียบกับอาคารแบบเดียวกันที่ตั้งอยู่ในย่านการค้าเอกชนอย่างแถวเจริญกรุง หรือเฟื่องนครซึ่งอยู่ในละแวกใกล้เคียง ทว่ายังคงสะท้อนให้เห็นกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของอาคารสมัยใหม่ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 แฝงอยู่ในหลาย ๆ ส่วนของอาคาร ยกตัวอย่างเช่น การนำลายฉลุไม้อย่างที่พบอยู่ทั่วไปในการตกแต่งเรือนขนมปังขิง (Gingerbread house) มาประดับบริเวณช่องลมเหนือกรอบหน้าต่าง และตามขอบชายคาขนาดเล็กที่ยื่นคลุมช่องหน้าต่างของตึกแถวตลอดแนวถนนแพร่งภูธร
การประดับอาคารด้วยลวดลายฉลุไม้ เป็นอิทธิพลของศิลปะยุควิคทอเรียน (Victorian style) ซึ่งมีการรื้อฟื้นการตกแต่งอาคารตามอย่างสถาปัตยกรรมยุคกอธิค (Gothic Art) ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ผสมผสานกับพระราชนิยมส่วนพระองค์ของพระราชีนีวิคทอเรีย ซึ่งโปรดผ้าลูกไม้จึงมีการประยุกต์เอาลายที่ปรากฏอยู่ตามชายผ้าลูกไม้มาฉลุเป็นลาย นอกเหนือจากลายดอกจิก ลายกากบาท ตลอดจนลายเปลวไฟ ที่เคยนิยมในสมัยกอธิคมาก่อน บางครั้งจึงปรากฏการเรียกการตกแต่งอาคารด้วยวิธีการนี้ในอีกชื่อหนึ่งว่า “Victorian Gothic” ลวดลายที่ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเรือนขนมปังขิงสมัยวิคทอเรียนคือ “ลายดอกทิวลิป”
สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ทำให้การตกแต่งอาคารด้วยลายฉลุไม้ดังกล่าวเป็นที่นิยมในไทย ตลอดจนหลายประเทศในแถบนี้เพราะเป็นเทคนิคที่ใช้กับวัสดุที่เป็นไม้โดยเฉพาะ สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศในเขตร้อนชื้นที่มีทรัพยากรป่าไม้กระจายอยู่ทั่วไป อย่างไรก็ดีปรากฏการนำลายกระหนกมาผสมผสานเข้ากับการประดับอาคารแบบเรือนขนมปังขิงในไทยด้วย

การตกแต่งอาคารด้วยลายฉลุไม้ ที่ปรากฏบนอาคารตึกแถวที่ตั้งอยู่ตลอดแนวถนนแพร่งภูธร