
พุทธศิลป์กับบทบาทวัดราชคฤห์ในย่านบางยี่เรือ ยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์

ความทรงจำเกี่ยวกับสมเด็จพระเจ้าตากสิน
วัดวรามาตยภัณฑสาราราม หรือวัดขุนจันทร์ ตั้งบริเวณปากคลองด่านตัดกับคลองบางหลวง บูรณะใหม่ พ.ศ. 2370 ภายใต้การอุปถัมภ์ของพระยามหาอำมาตย์ (ป้อม) ในรัชกาลที่ 3 ปัจจุบันเหลือหลักฐานงานสร้างของเก่าภายในวัดเฉพาะอุโบสถ ซึ่งผ่านการบูรณะใหม่บนเค้าโครงอาคารเดิม เจดีย์ข้างอุโบสถ ไม่ปรากฏประวัติการสร้าง ปัจจุบันส่วนฐานผ่านการซ่อมใหม่เป็นช่องบรรจุอัฐิมาตั้งแต่สมัยอดีตเจ้าอาวาส และหลวงพ่อโต พระพุทธรูปขนาดใหญ่ เข้าใจว่าน่าจะมีอยู่ก่อนงานบูรณะครั้งนั้น เดิมประดิษฐานกลางแจ้งต่อมาทางวัดได้ทำเพิงหลังคาสังกะสีป้องกันแดดฝนก่อนสร้างวิหารขึ้นใหม่ภายใต้การร่วมแรงของชาวบ้านและพระลูกวัดจนแล้วเสร็จใน พ.ศ. 2506 จากภาพถ่ายเก่าราว พ.ศ. 2490 เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบปางสมาธิ กรอบพระพักตร์และพระหนุตัดเหลี่ยม พระโอษฐ์เป็นเส้นคลื่นแสดงเค้าโครงรูปแบบเก่าสืบพระพุทธรูปสมัยอยุธยาแบบอู่ทอง 2 ปัจจุบันพระพุทธรูปผ่านการบูรณะมาอีก 2 ครั้งจึงยากแก่การกำหนดอายุสมัยที่แน่นอนได้ หลวงพ่อโตเป็นตัวอย่างของความศรัทธาของผู้คนในย่านคลองบางหลวงที่ปรากฏการนับถือพระพุทธรูปโบราณที่มีมาแต่แรกเดิมในวัด ซึ่งมีประวัติเป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยาที่มีอยู่มากภายในย่านคลองบางหลวง พระพุทธรูปโบราณเหล่านี้เป็นที่พึ่งทางใจกลายเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของชุมชน และเป็นสิ่งดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทางศาสนาของวัดในปัจจุบัน ด้วยย่านนี้มีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่มากและศรัทธาขอพรท่านในฐานะพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เรียกกันว่า “ซำปอกง” เช่นเดียวกับหลวงพ่อโตวัดกัลยาณมิตรตรงปากคลองบางหลวง

หลวงพ่อโต วัดวรามาตยภัณฑสาราราม